ความสัมพันธ์ของความคาดหวังกับฮอร์โมนโดปามีน

เคยอกหัก หรือมีคนใกล้ตัวเราอกหัก กันบ้างไหมครับ เอาเฉพาะกรณีที่ เราจีบ หรือ คาดหวังว่าเขาจะมาจีบ เพื่อความสัมพันธ์แบบจริงจังนะครับ แบบที่เรารักจริงหวัง (ให้เขาขอ) แต่ง ความคาดหวังของเราตอนนั้นสูงแค่ไหน สิ่งที่เราทุ่มเทไปมากแค่ไหน แล้วความรู้สึกตอนไม่สมหวังนั้นรุนแรงแค่ไหน คงพอจำกันได้นะครับ เอาเป็นว่าเรารีบๆ ข้ามไปช่วงนี้ไปก่อนดีกว่า

เราได้ทำความรู้จักกับความสัมพันธ์ของ ความคาดหวัง กับ ฮอร์โมนโดปามีน กันไปบ้างแล้ว เรามาลองดูเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่กันต่ออีกนิด

นอกจากระดับของโดปามีนที่สูงเกินไปจะทำให้ เรามีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายขึ้นแล้ว เมื่อเวลาที่เราต้องได้ผลลัพธ์ที่ไม่ตรงกับความคาดหวัง ยังส่งผลให้ระดับของโดปามีนในสมองของเราลดลงอย่างรวดเร็ว และด้วยความที่โดปามีนเอง ก็มีฤทธิ์บางอย่างคล้ายคลึงกับสารเสพติดอย่าง มอร์ฟีน สภาพตอนที่เราผิดหวังในสิ่งที่เราคาดหวังอย่างรุนแรง ก็ไม่ต่างอะไรจากสภาพตอนเรา ลงแดง เมื่อต้อง หักดิบ เลิกเสพสารเสพติดแบบทันทีเลย

และภาวะนั้นก็ส่งผลกระทบต่อสมองส่วนอารมณ์ความรู้สึกของเราอย่างรุนแรง จนหลายๆ ครั้งเราแทบไม่สามารถใช้สมองส่วนคิดได้เลย เราจึงได้เห็นเหตุการณ์สะเทือนใจและดูไม่สมเหตุสมผล (ของเรา) อยู่บ่อยครั้ง

โดยเฉพาะสังคมการทำงานในปัจจุบัน ที่ทุกคนต้องแบกความคาดหวังทั้งของตนเอง องค์กร รวมถึงครอบครัวและคนรอบข้าง เราจึงเห็นได้ตั้งแต่อารมณ์ที่หงุดหงิด เครียด เบื่อง่าย ควบคุมอารมณ์ได้ลดลง หรือสูญเสียความมั่นใจในตนเองในตนเองไปเลย และเราก็พบว่า คนในวัยทำงานอย่างเรา มีอัตราการเป็นโรคซึมเศร้า และการฆ่าตัวตายที่เพิ่มมากขึ้น เพราะทนต่อสภาพ ลงแดง ของตนเองไม่ไหว

ในการทำงาน เพื่อป้องกันการ อกหัก ของเรา เราคงยังต้องใช้สมองส่วนอารมณ์ สร้างความมุ่งมั่น และความรักในงานของเราต่อไป แต่ต้องเพิ่มการใช้สมองส่วนคิดในการวิเคราะห์สถานการณ์ ตามตรรกะ ตามข้อเท็จจริง ลดระดับความคาดหวังของเราให้มันพอดี ไม่มาก ไม่น้อย จนเกินไป

การใช้สมองทั้งส่วนคิด และสมองส่วนอารมณ์ให้สมดุลกัน จึงมีความจำเป็นอย่างมาก เพื่อบริหารความหวังและความคาดหวังของเราให้เหมาะสม

เลิก อกหัก กันได้แล้วครับ จะได้ไปเปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ที่ดีกว่า เข้ามาหาเราเสียที