โดยทีมงานเอ็นเทรนนิ่ง 23 สิงหาคม 2561 12,390 0
หน้าแรก / ห้องสมุดเอ็นเทรนนิ่ง / บทความหมวด หัวหน้างานนักบริหาร / ผู้นำคือใคร และ ผู้นำควรทำอะไร
7 ก.ย. 2561 อ่าน 20,591 หมวด หัวหน้างานนักบริหาร
10 ก.ย. 2561 อ่าน 1,258 หมวด หัวหน้างานนักบริหาร
29 ต.ค. 2561 อ่าน 52,429 หมวด หัวหน้างานนักบริหาร
12 พ.ย. 2561 อ่าน 3,302 หมวด หัวหน้างานนักบริหาร
12 พ.ย. 2561 อ่าน 2,060 หมวด หัวหน้างานนักบริหาร
12 พ.ย. 2561 อ่าน 4,242 หมวด หัวหน้างานนักบริหาร
ผู้นำคือใคร? และ ผู้นำควรทำอะไร? น่าจะเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหาคำตอบเพื่อเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการพัฒนาความเป็นผู้นำ ให้เกิดขึ้นในตนเองของว่าที่ผู้นำทุกคนในเรื่อง ของความเป็นผู้นำนั้นมีสิ่งที่เข้าใจผิดกันหลายประการ ประการหนึ่งที่สำคัญและเป็นกับดัก หรือ ความเชื่อที่ผิด ๆ เกี่ยวกับผู้นำก็คือ ผู้นำจะต้องมีตำแหน่งแห่งหนระดับสูงในองค์การที่มีผู้ใต้บังคับบัญชามากมาย หากไม่ได้มีตำแหน่งในระดับบริหารแล้วก็ไม่เรียกว่าเป็นผู้นำ ความเชื่อนี้ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เนื่องจากแท้จริงแล้ว บุคคลทุกคนได้นำตนเอง อยู่ตลอดเวลา บางคนก็เป็นผู้ที่มีคนอื่น ๆ เชื่อมั่น และ ศรัทธารับฟัง และ กระทำตามในสิ่งที่เขาคิด และ นำเสนอออกมา แม้ว่าตัวเขาจะไม่ได้มีตำแหน่งสำคัญอะไรเลยในองค์การหรือสังคม (แต่มักจะเป็นที่รู้จักของคนจำนวนมากในองค์การหรือสังคม) เช่น ในการทำงานใด ๆ เขามักจะได้รับการคัดเลือกจากกลุ่มให้ทำหน้าที่ผู้นำกลุ่ม หรือเป็นตัวแทนของหน่วยงานองค์การในหลากหลายกิจกรรม ซึ่งถ้าหากพิจารณาถึงความหมายของคำว่า “ภาวะผู้นำ” ซึ่งโดยทั่วไปจะให้คำนิยามว่า ภาวะผู้นำคือกระบวนการเชิงสังคม (Social Process) หรือเทคนิคเชิงสังคม (Socio-Technical) ที่บุคคลหนึ่งพัฒนาหรือสร้างขึ้นในตนเอง เพื่อนำมาใช้ประโยชน์สำหรับการช่วยเหลือ และ สนับสนุนให้บุคคลอื่น ๆ ได้ดำเนินกิจกรรมในความรับผิดชอบของเขา ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามที่มุ่งหมายไว้ ซึ่งหากตีความให้กับประโยชน์ดังกล่าวนี้ การใช้ภาวะผู้นำก็จะครอบคลุมถึงกิจกรรม ในการช่วยเหลือส่งเสริม และ สนับสนุนให้บุคคลอื่นบรรลุเป้าหมาย โดยกิจกรรมเหล่านั้นก็จะประกอบด้วย การช่วยให้ผู้อื่นได้เข้าใจ และ เล็งเห็นถึงความสำเร็จที่ปรารถนาทั้งส่วนรวม และ ส่วนบุคคล การกระตุ้นจูงใจให้บุคคลเกิดความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายนั้น ๆ ช่วยให้บุคคลมีศักยภาพ และ ความพร้อมที่เพียงพอในการก้าวย่างไปสู่จุดหมาย และการทำให้เป้าหมายทั้งของส่วนรวมและของแต่ละบุคคลเกิดเป็นจริงขึ้นมา
การที่บุคคลหนึ่งจะสามารถกระทำภาระกิจการช่วยเหลือและ สนับสนุนดังกล่าวนี้อย่างประสบผลสำเร็จ สิ่งหนึ่งที่จะต้องมีอยู่ในตัวของบุคคลผู้นั้นก็คือความสามารถในการมีอิทธิพลเหนือผู้อื่น (Influence) โดยอาจกล่าวได้ว่าการมีอิทธิพลเหนือผู้อื่นนั้นเป็นคุณสมบัติภาวะผู้นำข้อแรกที่ผู้นำซึ่งประสบความสำเร็จจะต้องมีอยู่ในตนเอง คำถามที่สำคัญตือแล้วจะทำอย่างไรให้เราเป็นผู้ที่มีอิทธิพลเหนือผู้อื่น จุดเริ่มต้นที่สำคัญของการสร้างอิทธิพลมาจากการที่บุคคลผู้นั้นเป็นที่ยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ การจะเป็นที่ยอมรับได้นั้นก็อาจจะมาจากองค์ประกอบหลายๆประการที่เป็นรากฐาน ทั้งนี้ประตูด่านแรกของการเป็นที่ยอมรับคือการได้รับความชื่นชม ชื่นชอบและศรัทธาจากผู้อื่น กล่าวคือว่าที่ผู้นำจะต้องทำตัวให้เป็นที่ชื่นชอบ เป็นที่รักของบุคคลอื่นๆให้สำเร็จก่อน ในทางทฤษฎีจิตวิทยานั้นกล่าวว่าการที่บุคคลจะได้รับความรักความชื่นชอบจากผู้อื่น บุคคลนั้นจะต้องดึงดูดความรักความชื่นชอบด้วยการส่งผ่านความรักความชื่นชอบออกไปก่อน การได้รับความยอมรับ ความรัก ความชอบเป็นสิ่งที่คนทุกคนปรารถนา นั่นเพราะการได้รับสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการมีตัวตนอยู่ของบุคคลผู้นั้น (Existence) ว่าที่ผู้นำที่ชาญฉลาดจะสร้างสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้นกับผู้คนที่เขาต้องการสร้างอิทธิพลเหนือ สิ่งหนึ่งที่สามารถกระทำได้อย่างรวดเร็วคือการทำให้ผู้อื่นเกิดการรับรู้ถึงความมีตัวตนที่น่าภาคภูมิของตนเอง ด้วยการกระทำในสิ่งต่างๆดังนี้
1. การแสดงให้เห็นถึงการรับรู้และยอมรับเกี่ยวกับคุณค่าในตัวของบุคคล บุคคลทุกคนมีลักษณะเฉพาะของตนเองและมีบางสิ่งที่เป็นความโดดเด่นในเชิงบวกที่เหนือกว่าค่าเฉลี่ยโดยทั่วไป การแสดงถึงการรับรู้และยอมรับก็คือการทำให้บุคคลได้ค้นพบหรือมองเห็นถึงคุณค่าที่มีอยู่ในตัวของเขาไม่ว่าสิ่งนั้นจะใหญ่หรือเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม การกล่าวถึงและชื่นชมในคุณค่าเหล่านั้นอย่างจริงใจ จะก่อเกิดความรู้สึกในเชิงบวกให้เกิดขึ้น กิจวัตรง่ายๆก่อนการเปิดประเด็นสนทนาให้ฉกฉวยช่วงเวลานาทีทองแรกให้เป็นประโยชน์ด้วยการกล่าวกับคู่สนทนาในคุณค่าที่น่าชื่นชมที่เขามีอยู่ แสดงออกหรือได้ส่งมอบให้กับท่าน
2. การให้ความสำคัญกับผู้อื่นไม่ใช่ให้ความสำคัญกับตนเอง พูดในสิ่งที่ผู้อื่นสนใจและเกี่ยวกับตัวของเขา (เรื่องเชิงบวก) มีคำกล่าวที่น่าจดจำไว้สำหรับว่าที่ผู้นำ คือ นักพูดที่น่ารังเกียจคือคนที่นำเรื่องของบุคคลที่สามมาพูดคุยให้ฟัง (นินทา) นักพูดที่น่ารำคาญคือคนที่พูดคุยแต่เรื่องของตัวเอง นักพูดที่น่าสนใจคือคนที่พูดคุยในเรื่องเกี่ยวกับเรื่องราวของคู่สนทนาสิ่งที่คู่สนทนาให้ความสำคัญและสนใจ
3. การเป็นที่พึ่งพิงของผู้อื่นด้วยการให้ เนื่องจากการให้เป็นการสร้างบารมีให้กับว่าที่ผู้นำ การให้นั้นสามารถให้ได้ทั้งสิ่งที่จับต้องได้และสิ่งที่จับต้องไม่ได้ และต้องคำนึงถึงจังหวะกาลเทศะด้วย สิ่งที่ว่าที่ผู้นำสามารถเลือกให้ได้อาจจะเป็นเรื่องของ ความรู้ เงินทอง สายสัมพันธ์ มิตรภาพ โอกาส ความช่วยเหลืออื่นใดที่อยู่ในกำลังของว่าที่ผู้นำ ฯลฯ (โดยต้องจำไว้ด้วยว่าเราไม่สามารถให้ได้ในสิ่งที่เราไม่มี) และการให้อย่างได้ประสิทธิผลต้องถูกจังหวะเวลากาลเทศะ โดยต้องล่วงรู้ถึงสิ่งที่ผู้รับมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า สิ่งที่เขาสนใจหรือให้ความสำคัญ เช่น บางคนอาจต้องการโอกาสในการเรียนรู้พัฒนาตนเอง บางคนอาจต้องการความก้าวหน้าในงาน บางคนอาจต้องการคำแนะนำในเรื่องปัญหาส่วนตัวและปัญหาในงาน ต้องการความมั่นใจกำลังใจ ฯลฯ และว่าที่ผู้นำต้องให้ในช่วงเวลาที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบารมีจะสูงสุดเมื่อให้ในช่วงเวลาที่ผู้รับต้องการได้รับมากที่สุด เช่น การให้น้ำดื่มเพียงแก้วเดียวแก่ผู้ที่อยู่กลางทะเลทรายและกำลังจะเสียชีวิตจากความกระหาย และได้ชีวิตคืนมาจากน้ำแก้วเดียวนั้น เป็นต้น
Just Do Itแค่ลงมือทำครับ แล้วภาวะผู้นำจะเริ่มก่อร่างขึ้นเรื่อยๆในตัวของว่าที่ผู้นำครับ
7 ก.ย. 2561 อ่าน 20,591 หมวด หัวหน้างานนักบริหาร
10 ก.ย. 2561 อ่าน 1,258 หมวด หัวหน้างานนักบริหาร
29 ต.ค. 2561 อ่าน 52,429 หมวด หัวหน้างานนักบริหาร
12 พ.ย. 2561 อ่าน 3,302 หมวด หัวหน้างานนักบริหาร
12 พ.ย. 2561 อ่าน 2,060 หมวด หัวหน้างานนักบริหาร
12 พ.ย. 2561 อ่าน 4,242 หมวด หัวหน้างานนักบริหาร
หมวด Leadership อ่าน 3,520
หมวด หลักสูตรเฉพาะวิทยากร (Other) อ่าน 6,455
หมวด Advance Leadership อ่าน 3,122
หมวด Leadership อ่าน 4,593
หมวด Leadership อ่าน 3,217
หมวด Management and Productivity อ่าน 2,654
หมวด หลักสูตรเฉพาะวิทยากร (Other) อ่าน 2,460
หมวด หลักสูตรเฉพาะวิทยากร (Other) อ่าน 2,823