ร่วมเดินทางด้วยกัน ตอนที่ 15

“มีหลายต่อหลายคนมักพูดกันว่า สมัยนี้ ทำอะไรนิด ทำอะไรหน่อย ก็ต้องใช้เงิน จะมาทำเหมือนเมื่อสมัยก่อนไม่ได้แล้ว จะทำอะไร ก็มีมิตรจิตมิตรใจที่มาก่อนเสมอ”

“มีไครไม่ชอบเงินบ้างครับ” ผมคนหนึ่งหละที่ชอบเงิน ไม่ใช่ชอบเพราะการมีเงินมากมายแล้ว จะทำให้เรามีความสุข มีสิ่งต่างๆ ที่เราต้องการ แต่ที่ผมชอบเงินนั่นก็เพราะ เงินทำให้ผมเห็นตนเอง เห็นพลังของตนเอง เห็นศักยภาพของตนเอง เห็นความคิดและจิตใจของผู้คนรอบข้าง และเห็นอะไรต่างๆมากมายที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้พบเห็น เคยเห็นศักยภาพของคนเราจากการตั้งรางวัลที่มีมูลค่าสูงๆกันไหมครับ จากคนธรรมดาที่ดูพื้นๆ ไม่มีอะไร อาจจะกลายเป็นยอดมนุษย์ไปเลยก็เป็นได้ หากเป็นเช่นนั้น เงินก็เป็นแรงผลักดันศักยภาพของคนเราให้ก้าวปีนป่ายกระโดดขึ้นไปเหนือกว่าความสามารถที่คนทั่วๆ ไปเป็นกัน

มาถึงตรงนี้แล้ว ที่ผมจะกล่าวก็คือ เงินเป็นตัวช่วยดึงศักยภาพของคนเราให้ก้าวกระโดดออกไปจากจุดเดิม และแน่นอนครับ เงินก็ยังทำให้เราอดทนกับบางสิ่งบางอย่าง ทั้งๆที่รู้ว่านี่คือกับดักที่จะขังเราไปทั้งชีวิตก็ตาม มีคนจำนวนไม่น้อยอีกเช่นกันที่บอกว่าย่อมไม่จริงเสมอไป “ไม่มีเงินมาเป็นตัวช่วยก็สามารถดึงศักยภาพที่โดดเด่นเกินใครออกมาใช้ได้” ถูกต้องเลยครับ ไม่มีเงินก็มีศักยภาพที่โดดเด่นขึ้นมาได้ “แต่จะทำได้นานแค่ไหนกัน ได้กี่ครั้ง แล้วจะเป็นกันได้ซักกี่คน และหลายต่อหลายคนก็จบลงด้วยเงินที่ไหลมาเทมาจากศักยภาพนั้น”  เงินอีกแล้วในท้ายที่สุด

มีอาชีพจำนวนไม่น้อยที่เริ่มด้วยอุดมการณ์ มีแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่จากแรงบันดาลใจมากมาย ที่อยากจะเดินก้าวไปสู่อุดมการณ์ที่ได้วาดฝันไว้ แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยอุดมเงิน ที่เงินมามีสัดส่วนแทรกซึมเข้ามาเรื่อยๆ เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งจนสัดส่วนของเงินมีเพิ่มขึ้นมากกว่าอุดมการณ์ จนหลายต่อหลายครั้งที่อุดมการณ์ก็ถูกเงินกลืนกินไปในที่สุด ถึงแม้ว่าเงินจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะต้องมุ่งทุกอย่างไปที่เงินเสมอ เปรียบเสมือนกับลมหายใจ ที่เราทุกคนต้องหายใจอยู่ตลอด แต่เราเองก็ไม่ได้ไปเพ่งว่าเราจะต้องหายใจเข้าหายใจออกในวินาทีไหนบ้าง แล้วเราจะมีความสุขในการดำรงชีวิต ไม่ว่าเราจะหาเงินได้น้อยหรือมากก็ตาม เงินจะไหลเวียนอยู่กับเราดั่งลมหายใจที่มีอยู่ตลอด โดยที่เราจะเอาเวลาไปเพ่งหาความสุขให้กับชีวิตแทน

หลายคนเปลี่ยนไปเพราะเงิน เงินคือพระเจ้า และ เงินก็คือปีศาจ เราอยากให้เงินเป็นแบบไหน ก็อยู่ที่เราเลือก

ในตอนหน้าผมจะชวนคุณร่วมเดินทางกันต่อไปกับเรื่องของ “ผลประโยชน์ในทุกจุด” ซึ่งเป็นตอนที่ต่อเนื่องจากตอนที่สิบห้านี้ ทำอะไรแล้วเกิดผลประโยชน์ก็จะทำ ไม่เกิดผลประโยชน์ก็จะไม่ทำ ไม่แตะต้องเลย หากเป็นแบบนี้แล้วจะใช่เราๆ ท่านๆ ไหมที่ผลประโยชน์ก็ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของการที่เราจะกระทำอะไรซักอย่างหนึ่ง ดังนั้น เรามาพบกันต่อในตอนที่ 16 กันครับ