ลงทุนอะไรดี

     การลงทุนนอกเหนือจากการลงทุนโดยตรงในธุรกิจที่ถนัดแล้ว คนส่วนใหญ่ก็มักที่จะลงทุนในที่ดิน บ้าน คอนโดหรือทองคำ รวมทั้งลงทุนในตลาดหุ้น ที่หวือหวาที่สุดก็คงเป็นการลงทุนในหุ้น นั่นแหละ ในขณะที่การซื้อทองคำเก็บไว้ให้ลูกหลานก็ยังคงเป็นที่นิยมเหมือนกัน แต่หารายย่อยที่จะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำจากการซื้อขายทองคำยากสักหน่อยเพราะต้องใช้เงินลงทุนเยอะ

อย่างไรก็ตาม การซื้อขายทองคำทำได้ 3 รูปแบบ คือ

     แบบแรกซื้อขายทองคำแท่งหรือรูปพรรณตรงๆ เลย อันนี้ไช้เงินเยอะแน่ แต่ก็ได้ทองห่อกลับบ้านไปด้วย อยากชื่นชมตอนไหนก็หยิบมาดูได้

     แบบที่สอง ซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนทองคำ อันนี้ใช้เงินน้อยกว่า ไม่ได้ทองคำไปเก็บที่บ้าน แต่ได้เป็นเจ้าของหน่วยลงทุน กำไรที่ได้คือ กรณีซื้อ(หน่วยลงทุน)ถูกขาย(หน่วยลงทุน)แพง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับจังหวะการซื้อ การขายและจำนวนหน่วยลงทุนด้วย อย่างไรก็ตามยังมีค่าธรรมเนียมที่ต้องคิดป็นต้นทุนด้วยนะคะ

     อีกแบบหนึ่งเป็นการซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่เรียกว่า Gold future ใช้เงินน้อยกว่าการซื้อทองคำโดยตรง และมีระยะเวลาจำกัด ถือเป็นการลงทุนแบบเก็งกำไรราคาทองคำล่วงหน้า เพราะถ้าเก็งถูกก็กำไรเยอะเมื่อเทียบกับเงินลงทุน แต่ถ้าเก็งราคาผิดก็ขาดทุนย่อยยับเหมือนกัน บางคนอาจบอกว่า ราคาทองไม่มีทางตกอยู่แล้ว เห็นจะไม่จริงเสมอไป เพราะเราก็ได้เห็นราคาทองขึ้นไปแตะใกล้ๆบาทละ 30,000 บาทแล้วก็ลงมาต่ำกว่า บาทละ 20,000 บาท ในช่วงระยะเวลาไม่นาน ทองคำได้กลายเป็นทรัพย์สินเก็งกำไรไปแล้ว การลงทุนก็ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวัง

     การลงทุนที่ได้รับความนิยมสุดๆในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา จนมาถึงการบูมสุดขีดในช่วงต้นปี 2556 นี้ก็คือ การลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมตามหัวเมืองใหญ่ๆ รวมทั้งในกรุงเทพ โดยเฉพาะตามแนวการก่อสร้างรถไฟฟ้าสารพัดสี เราได้เห็นการขายคอนโดหมดในวันแรกที่เปิดหลายโครงการของแสนสิริในช่วงต้นปี 2556 ทีเดียว พอมาช่วงกลางปี การขายเริ่มยากขึ้น โครงการเปิดใหม่บางโครงการเริ่มขายไม่หมด คนที่ซื้อไปแล้วพยายามจะขายก็ขายไม่ค่อยออก กำลังซื้อดูจะเหือดแห้ง จนดูเหมือนตลาดคอนโดจะวายเสียแล้ว สะท้อนมาที่ราคาหุ้นอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ที่บางบริษัทปรับลดลงมาเกิน 50% ทีเดียว มองเห็นอนาคตในระยะ 6 เดือนข้างหน้า ใครอยากขายบ้าน ขายคอนโด รีบๆนะคะ ปีหน้าคงจะขายยากกว่านี้อีก การลงทุนในคอนโดเริ่มส่อแววและส่งสัญญาณไม่สู้ดีออกมา น่าจับตานะคะ

     ส่วนการลงทุนในที่ดินนั้น ว่ากันว่ามีคนไทยที่ร่ำรวยจากการขายที่ดินเยอะเมื่อเทียบกับการลงทุนในรูปแบบต่างๆ เหตุผลอันหนึ่งที่น่าสนใจก็คือว่า การขายที่ดินนั้นมันยากมาก กว่าผู้ซื้อตัวจริงจะเจอกับผู้ขาย ยากพอๆกับการเจอเนื้อคู่ทีเดียว ก็เลยทำให้ระยะเวลาถือครองมันยาวนาน ที่ดินบางแปลงกว่าที่เจ้าของจะขายได้นี่รอกันตั้งแต่หนุ่มยันแก่เลย ราคามันเลยวิ่งไปหลายๆเท่าตัว อย่างไรก็ตามขอฟันธงว่า ในระยะต่อไปราคาที่ดินในแทบทุกภูมิภาคของประเทศคงจะแพงระยับจนคนธรรมดาหาซื้อไม่ได้ทีเดียวหล่ะ ที่ดินเป็นทรัพย์สินที่ต้องใช้เงินเย็นเจี๊ยบก้อนใหญ่ไปซื้อ เพราะธนาคารจะไม่ปล่อยเงินกู้เพื่อทำการซื้อที่ดิน นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่การซื้อขายทำได้ค่อนข้างยาก

     ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นนั้น ขอบอกเลยว่า ถ้าใครที่อยากรวยจะต้องศึกษาเรื่องนี้ เพราะนี่คือการสร้างความมั่งคั่งที่รวดเร็ว รุนแรง บ้าคลั่งที่สุดอย่างหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็อาจสร้างหายนะให้ชีวิตเราอย่างคาดไม่ถึงทีเดียว อาจถึงขั้นหมดเนื้อหมดตัวได้ แต่มันก็น่าเย้ายวนมากจริงๆนะ เวลาที่เห็นหุ้นขึ้นไปมากๆ รู้สึกเหมือนกับว่า ใครๆก็รวยจากหุ้นเยอะแยะไปหมด แต่รู้มั๊ยว่า ตลาดหุ้นนี้มันอันตรายมาก ก่อนที่จะทุ่มเงินทองลงไปในตลาดนี้ขอให้รู้ก่อนว่า เรากำลังเล่นอยู่กับอะไร ใครคือผู้เล่นหรือคุมเกมในตลาด เรามีกลยุทธ์อะไรที่จะชนะได้ เพราะโดยสถิติ มีผู้ชนะเพียง 20% อีก 80% คือผู้แพ้ และใน 20% นั้น มีเพียง 5% เท่านั้นที่สามารถสร้างความมั่งคั่งได้