หน้าแรก / รวมหลักสูตรฝึกอบรม / หมวดทั่วไป (Other) / หลักสูตรฝึกอบรม สมองคิดบวก สร้างทัศนคติเชิงบวก ให้เกิดแรงจูงใจในการทำงาน (Positive Brain for Positive Thinking)
(Brain Based Coach Trainer and Facilitator)
ติดต่อสอบถาม
084-164-2057 (HOTLINE)
asst.entraining@gmail.com, cocoachentraining@gmail.com
หลักการและแนวความคิด
“ทำมากไปก็ไม่ได้อะไร แถมทำผิดไป ก็ไม่มีใครช่วยรับผิดชอบ”
“ให้ทำงานกับคนแบบนี้ ทำเองคนเดียวยังดีเสียกว่า”
“งานมันยาก ผมเองก็ไม่เก่ง ผมไม่เคยทำ กลัวงานออกมาไม่ดี พี่ให้คนอื่นเถอะ”
ทัศคติเป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถใช้ศักยภาพของเราได้อย่างเต็มที่ แม้เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการก็ตาม การมีทัศนคติเชิงบวกช่วยให้เราเห็นศักยภาพของตนเองที่มีอยู่ เพื่อสร้างมุมมองใหม่ๆ และเกิดความมั่นใจในศักยภาพของตนเอง เราสามารถเลือกที่จะมองเห็นสิ่งดีๆ ในตัวเพื่อนร่วมงาน ตลอดจนข้อดีและโอกาสในงานที่ได้รับมอบหมาย
โดยธรรมชาติสมองเราถูกออกแบบมาให้คิดลบมากกว่าคิดบวกโดยอัตโนมัติ เพื่อความอยู่รอด เพื่อความปลอดภัย เพื่อป้องกันความผิดหวังของตนเอง ดังนั้นถ้าเราไม่ทันรู้ตัว สมองของเรามีแนวโน้มจะคิดในเชิงลบ และนำไปสู่พฤติกรรมเชิงลบโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจและหลายครั้งเราไม่สามารถควบคุมได้
การมีทัศนคติเชิงลบจึงทำให้เรามองเห็นตัวเองเล็กกว่าปกติ แล้วขยายความเสี่ยงและอันตรายที่อยู่รอบข้าง เพื่อพยายามให้ตัวเราอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยที่คุ้นเคย ดังนั้นหากเราไม่รู้ตัว ก็จะส่งผลให้เราสูญเสียความมั่นใจในตนเอง ไม่กล้าคิด ไม่กล้าตัดสินใจ มองไม่เห็นความสามารถของตนเอง เมื่อไม่สามารถชื่นชมตนเองได้ ก็จะไม่สามารถชื่นชมคนอื่นๆ ได้เช่นกัน ทำให้เห็นแต่ข้อเสียของเพื่อนร่วมงานที่อยู่รอบตัว นำไปสู่ความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน แล้วส่งผลกระทบต่อสัมพันธภาพและการทำงานเป็นทีมตามมา
และการคิดลบจดจ่อกับปัญหาและอุปสรรคมากกว่าโอกาส งานที่ได้รับมอบหมายจึงถูกมองเป็นเรื่องยาก เป็นภาระ เป็นความเสี่ยงมากกว่าความท้าทาย จึงไม่มีแรงจูงใจที่มากพอจะหาทางพัฒนาตนเองและพัฒนางานที่ทำอยู่ ส่งผลให้เกิดการทำงานโดยไม่มีเป้าหมาย ทำงานเพียงตามหน้าที่หรือคำสั่ง และพยายามแก้ตัวเมื่อเกิดข้อผิดพลาด มากกว่าจะคิดหาทางออกอย่างสร้างสรรค์
โดยปกติสมองเราไม่สามารถรับข้อมูลจากสิ่งแวดล้อมหรือเหตุการณ์ตรงหน้าได้ทั้งหมด เราเลือกที่จะเลือกรับข้อมูลเพียงบางส่วน และการเลือกที่จะรับข้อมูลที่เป็นเชิงบวกหรือเชิงลบในเหตุการณ์นั้น ก็ขึ้นอยู่กับทัศนคติ กรอบความคิด และความเชื่อที่เกิดจากบนฐานข้อมูลในสมองของเรา จากประสบการณ์อันเป็นข้อเท็จจริงที่เราเจอมา ทัศนคติจึงสามารถสร้างได้โดยการเปลี่ยนชุดข้อมูลที่เป็นเชิงลบ ด้วยการเลือกที่จะมองหาประสบการณ์ที่เป็นเชิงบวกให้มากขึ้น เลือกที่ที่จะคิดและรู้สึกในเชิงบวกให้บ่อยขึ้น เราก็จะสามารถเปลี่ยนทัศนคติและวงจรพฤติกรรมของเราให้เป็นเชิงบวกได้มากขึ้น
การเข้าใจการทำงานของสมอง จะช่วยให้เรามีสติ และรับรู้ถึงอารมณ์เชิงลบที่เกิดขึ้นได้เร็วขึ้น และหาวิธีการปรับเปลี่ยนอารมณ์เชิงลบให้เป็นอารมณ์เชิงบวกได้ก่อนจะเกิดพฤติกรรมหรือผลลัพธ์ที่ไม่ต้องการ การที่เราใช้สมองส่วนคิดให้มากขึ้น จะช่วยให้เราไม่รีบตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เลวร้ายด้วยสมองส่วนอารมณ์ เราจะมีสติ มีการยับยั้งชั่งใจมากขึ้น และเลือกตอบสนองต่อเหตุการณ์ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ บนศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่
การมีทัศนคติเชิงบวกจึงช่วยให้เราสามารถใช้ศักยภาพในตนเองได้อย่างเต็มที่ สามารถสร้างความมั่นใจในตนเอง มีสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน สามารถทำงานเป็นทีมได้ดี และมีแรงจูงใจในการทำงาน เนื่องจากมองเห็นประโยชน์ โอกาสและความท้าทายในงานที่ทำ
วัตถุประสงค์
1. รู้จักและสามารถเลือกเทคนิคในการสร้างและรักษาทัศนคติเชิงบวกที่เหมาะสมกับตนเอง
2. มองเห็นความสำคัญของการมีทัศนคติเชิงบวก และผลเสียจากการปล่อยให้ตนเองมีทัศนคติเชิงลบโดยไม่รู้ตัว
3. รู้สึกดีกับการเลือกมองคุณค่าของตนเอง และด้านที่ดีของเพื่อนร่วมงานมากขึ้น มีแรงจูงใจและภาคภูมิใจในงานที่ทำ
4. เกิดความเชื่อมั่นในตนเอง มองเห็นศักยภาพของตนเองและเพื่อนร่วมงาน แล้วใช้สิ่งนั้นในการพัฒนางานของตนเองและทีมงาน
รายละเอียดของหลักสูตรฝึกอบรม
ช่วงที่ 1 Exploration สำรวจทัศนคติของเราบนหลักการทำงานของสมอง
สมองกับการรับรู้ข้อมูลที่จำกัด เราเลือกได้ว่าจะรับข้อมูลเชิงบวกหรือลบ
ความสำคัญของการมีทัศนคติเชิงบวก และผลกระทบจากทัศคติเชิงลบต่อชีวิตและการงาน
สมองกับความกลัว ต้นกำเนิดของอารมณ์เชิงลบและพฤติกรรมที่ไม่ต้องการ
Workshop ค้นหาปัจจัยที่จะพัฒนาทัศนคติในเชิงบวกให้ตัวเราเอง
ตัวอย่างกิจกรรม ทดลองให้เห็นผลลัพธ์จากมุมมองที่เราเลือก สู่ความรู้สึก และพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ผ่าน Coaching Card
ช่วงที่ 2 Empowerment ก้าวข้ามหลุมพรางเพื่อสร้างทัศนคติเชิงบวกด้วยความมั่นใจ
หลุมพรางทางความคิดที่ทำให้เกิดทัศนคติเชิงลบ
เทคนิคในการก้ามข้ามหลุมพรางทางความคิดสู่ทัศนคติเชิงบวก
F
A
C การพัฒนาศักยภาพบนจุดแข็งของตนเอง
Workshop สำรวจหลุมพรางของตนเองและก้าวข้ามหลุมพรางด้วยการปรับเปลี่ยนความเชื่อ ความคิด ความรู้สึก
ตัวอย่างกิจกรรม การชื่นชมข้อดีตนเอง เพื่อไปมองเห็นข้อดีของคนอื่นๆ
ช่วงที่ 3 Expanding สร้างทัศนคติที่ดีกับเพื่อนร่วมงานและการทำงานเป็นทีม
4 Brain thinking Style สมองสี่ด้าน การเข้าใจคนแต่ละประเภท
การสร้างทัศนคติเชิงบวกกับบุคคลรอบตัว 360 องศา
5 ภาษารัก การแสดงความรู้สึกที่ดีและการให้ความสำคัญกับผู้อื่น
Workshop วางแผนการทำงานเป็นทีม เพื่อความสำเร็จและความสุขร่วมกัน
ตัวอย่างกิจกรรม แลกเปลี่ยนมุมมอง เพื่อเข้าใจความขัดแย้งจากความหวังดีบนความแตกต่างของแต่ละบุคคล
ช่วงที่ 4 Engagement เชื่อมโยงองค์ความรู้เข้ากับสถานการณ์เพื่อการใช้ประโยชน์จากทัศนคติเชิงบวกในการทำงาน
เทคนิคในการรักษาทัศนคติเชิงบวก และหลีกเลี่ยงทัศนคติเชิงลบ
หลักการสร้างแนวคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน ด้วยทัศนคติเชิงบวก
วิธีการสร้างฮอร์โมนแห่งความสุขให้ตนเองและผู้อื่น
Workshop การระดมสมองเชิงบวก เพื่อสร้างแนวคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน ผ่านกรณีศึกษา
ตัวอย่างกิจกรรม บทบาทสมมติ การสวมบทบาทใหม่บนกรอบความคิดเชิงบวก บนสถานการณ์เดิมที่ไม่เป็นใจ
ช่วงถามตอบปัญหา
การบ้านและแนวทางการติดตามผล
กรอบแนวคิดในการฝึกอบรม
แนวทางในการฝึกอบรม Training and Group Coaching ใช้กระบวนการผสมผสานทั้งการ Teaching, Training และ Coaching ในระหว่างการอบรม เพื่อให้ผู้เรียนได้รับทั้งความรู้ ความเข้าใจ ฝึกฝนทักษะ และทัศนคติที่ดี
Teaching for Knowledge เพื่อให้ข้อมูลหรือทำความเข้าใจเนื้อหาตามหัวข้อบรรยาย
Training for Skill เพื่อฝึกทักษะผ่านการทดลองคิด วางแผนและปฏิบัติ ผ่านแบบทดสอบ กิจกรรม และกรณีศึกษา
Coaching for Explore เพื่อสำรวจสิ่งที่เป็นหลุมพราง ความเชื่ออันจำกัด ซึ่งเป็นตัวฉุดรั้งความสำเร็จ และหันมาค้นหาศักยภาพ จุดแข็ง หรือคุณค่าที่ดีที่สามารถนำมาใช้สร้างแนวทางสู่ความสำเร็จของตนเอง
Coaching for Change ใช้กระบวนการ Coaching เพื่อสร้างเป้าหมาย ทางเลือกใหม่ๆ และแรงจูงใจที่จะนำไปสู่การลงมือปฏิบัติให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
Brain Based Learning ทำความเข้าใจธรรมชาติการทำงานของสมองในการเรียนรู้ สร้างสภาวะที่สนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียน ทำให้สมองของผู้เรียนมีความสุข ไม่ทำให้เกิดความกลัวหรือความกังวล เน้นการพัฒนาจากจุดแข็ง และใช้สมองส่วนคิดให้มากขึ้นเพื่อสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ๆ แทนการตกอยู่ใต้อิทธิพลของสมองส่วนอารมณ์ที่เป็นลบ แล้วใช้วงจรพฤติกรรมเดิมในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
Positive Psychology สร้างสภาวะที่พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง ด้วยการสร้างสมดุลของการสนับสนุนและความท้าทาย บนหน้าที่และเป้าหมายที่ตั้งไว้ กระตุ้นให้ผู้เรียนค้นหาคุณค่าของตนเอง และมองเห็นประโยชน์และผลตอบแทนที่มากกว่าปัจจัยภายนอก แต่เป็นการพัฒนาตนเองและการได้ใช้คุณค่าของตนเองในการทำงาน เห็นความสำคัญของการได้ช่วยเหลือผู้อื่นและองค์กรด้วยสิ่งที่ตนมี
ผู้ที่เหมาะสมกับหลักสูตรนี้ พนักงานระดับปฏิบัติงานทั่วไป
หัวหน้างาน
ผู้จัดการ
การเรียนรู้ VDO ด้วยระบบ Learning Management Platform (LMP)
การเรียนรู้ภายใน Classroom ด้วยบวนการ Adult learning
กระบวนการทำ Group Coaching / Show & Share
กระบวนการโค้ช (Coaching) ที่ประเด็นสำคัญของบุคคล
การนำเสนอโครงการเพื่อนำไปปฏิบัติในสถานการณ์จริง
การนำความรู้สู่การปฏิบัติที่ชัดเจน และการสรุปผลลัพธ์ของการฝึกอบรม