หน้าแรก / รวมหลักสูตรฝึกอบรม / หมวดทั่วไป (Other) / หลักสูตรฝึกอบรม สื่อสารด้วยสมองเพื่อความสำเร็จและความสัมพันธ์ (Brain to Brain Communication for Relation and Success)
(Brain Based Coach Trainer and Facilitator)
ติดต่อสอบถาม
093-649-3561 / 091-770-3350 (HOTLINE)
asst.entraining@gmail.com, cocoachentraining@gmail.com
การโค้ชงาน (Coaching)
พัฒนาภาวะความเป็นผู้นำ (Leadership)
พัฒนาภาวะความเป็นผู้นำ (Leadership)
พัฒนาภาวะความเป็นผู้นำ (Leadership)
การบริหารงาน (Management and Productivity)
ความรู้และทักษะทั่วไป (General Softskill)
หลักการและแนวความคิด
“ไม่มีใครยอมฟังเราเลย แล้วจะสื่อสารกันได้อย่างไร”
“ทำไมทุกคนต้องมีเงื่อนไขเสมอเวลาคุยกับเรา ทำให้ง่ายๆ ไม่ได้เหรอ”
“เราพูดไม่เก่ง คนอื่นจะรู้สึกไม่ดีกับการสื่อสารของเราหรือเปล่า”
การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างบุคลากรแต่ละส่วนงาน มีความสำคัญมากในการทำงานร่วมกันภายในองค์กร เพื่อสร้างผลลัพธ์ เพราะในปัจจุบันการทำงานลักษณะที่เป็น Silo คือ ต่างคนต่างรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้องค์กรก้าวไปข้างหน้า ทุกคนมีความจำเป็นต้องทำงานในลักษณะที่เป็น Intersect กันมากขึ้น คอยแลกเปลี่ยนข้อมูลของแต่ละฝ่าย เพื่อทำให้การวางแผนในการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้อย่างทันท่วงที
เมื่อต้องทำงานร่วมกันมากขึ้น ยิ่งต้องสื่อสารระหว่างกันเยอะขึ้น หากทุกคนไม่เข้าใจในเจตนาที่ดี บนรูปแบบวิธีการที่แตกต่างของอีกฝ่าย อาจทำให้เกิดความขัดแย้งได้โดยง่าย เพราะต่างคนต่างพยายามสื่อสารแนวคิดของตนเอง โดยขาดการรับฟังเพื่อเข้าใจความต้องการและข้อจำกัดของอีกฝ่าย ทุกคนอาจจะพยายามสื่อสารโดยยึดแนวความคิดของตนเอง และเกิดคำถามว่า
ทำไมคนอื่นๆ ถึงไม่ยอมเข้าใจเจตนาที่ดีของเรา ?
ทำไมคนอื่นไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ยอมช่วยเหลือเราบ้าง ?
ทำไมคนอื่นต้องโจมตีความคิดเห็นที่แตกต่างของเราด้วย ?
เมื่อเกิดคำถามเหล่านี้ ทักจะทำให้บรรยากาศในการสื่อสารเสียไป และหยุดการสื่อสารในที่สุด ทำให้ขาดการประสานงานกัน มีความขัดแย้งกันง่ายขึ้น กระทบต่อผลลัพธ์ในการทำงาน และความมั่นคงขององค์กรในที่สุด
การเข้าใจรูปแบบวิธีการสื่อสารของแต่คนแต่ละแบบ จากสมองแต่ละด้าน จะทำให้เราเข้าใจพื้นฐานความต้องการของคนแต่ละประเภท สามารถสื่อสารเพื่อสร้างความสัมพันธ์ได้ดียิ่งขึ้น เพราะสื่อสารบนพื้นฐานความเข้าอกเข้าใจกัน สามารถโน้มน้าวจูงใจอีกฝ่าย ให้เข้าใจในสิ่งที่เราต้องการ ผ่านการสื่อสารได้ง่ายขึ้น เพราะมีทักษะการฟังเชิงลึกที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถฟังเพื่อวิเคราะห์และรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายต้องการหรือให้ความสำคัญกับเรื่องใด รู้ว่าจะพูดอย่างไรเพื่อให้อีกฝ่ายอยากรับฟัง อยากช่วยเหลือ อยากทำงานร่วมกัน
การสื่อสารที่ดีจึงเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของการทำงานเป็นทีม สามารถสร้างทั้งความสำเร็จและสร้างสัมพันธภาพในการทำงานร่วมกัน ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในการทำงานลดลง มีผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการทำงานในทิศทางเดียวกัน และมีการแลกเปลี่ยนแนวคิดอย่างสม่ำเสมอ เกิดเป็นความคิดสร้างสรรค์ในการรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ทันท่วงที
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสร้างกรอบความคิดใหม่ในเชิงบวกในการสื่อสาร เชื่อมั่นในวิธีการสื่อสารของตนเอง และเข้าใจเจตนาที่ดีบนการสื่อสารของผู้อื่น
2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีเทคนิคในการสื่อสารเพื่อสร้างความสัมพันธ์ และการสื่อสารเพื่อโน้มน้าวใจผู้อื่น
3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจธรรมชาติการทำงานของสมองกับการสื่อสาร สามารถเข้าใจรูปแบบการสื่อสารที่แตกต่างจากวิธีการใช้สมองที่แตกต่างกันของแต่ละคน
4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถออกแบบวิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้ฝึกฝนเพื่อสร้างทักษะการสื่อสารใหม่ๆ แล้วพัฒนาเป็นรูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพของตนเอง
รายละเอียดของหลักสูตรฝึกอบรม
ช่วงที่ 1 Exploration สำรวจกรอบความคิดเพื่อการมองเห็น ยอมรับ และพร้อมจะเปลี่ยนแปลงด้วยตนเอง
สำรวจกรอบความคิดในการสื่อสาร เรามีความเชื่อ ความคิด ความรู้สึก อย่างไรกับการสื่อสารของตนเองในปัจจุบัน
สมองกับการสื่อสารเพื่อสร้างความสุขและความสัมพันธ์
- ช่องทางที่แตกต่างและจำกัดในการรับข้อมูลของสมองในแต่ละบุคคล
- สื่อสารให้สมอง ปรองดองกับหัวใจ สมดุลของการใช้สมองส่วนคิดและอารมณ์
- ฮอร์โมนแห่งความสุข เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการสื่อสาร
ปรับเปลี่ยนการสื่อสารให้สอดคล้องกับเป้าหมายของเรา
Workshop Communication Awareness สร้างการตระหนักรู้เพื่อเข้าใจรูปแบบการสื่อสารของตนเองในสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ
ตัวอย่างกิจกรรม Brain Game ทดสอบสมอง เพื่อเข้าใจข้อจำกัดในการรับรู้ข้อมูลของตัวเราเองและผู้อื่น
ช่วงที่ 2 Empowerment สร้างกรอบความคิดเชิงบวก สร้างความเชื่อมั่นในการสื่อสารเพื่อสร้างสัมพันธ์
องค์ประกอบของการสื่อสารสร้างสัมพันธ์
หลุมพรางทางความคิดที่ทำให้การสื่อสารลดประสิทธิภาพลง
เทคนิคในการก้าวข้ามหลุมพราง เพื่อสร้างแนวทางใหม่ๆ ในการสื่อสารให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
Workshop ออกแบบวิธีการสื่อสารในครั้งต่อไป เพื่อให้เราสื่อสารด้วยความมั่นใจมากขึ้น
ตัวอย่างกิจกรรม ชื่นชมตนเอง และจับถูกผู้อื่น เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการสื่อสารสร้างสัมพันธ์
ช่วงที่ 3 Expanding เรียนรู้เครื่องมือในการสื่อสารใหม่ๆ และฝึกฝนเพื่อเพิ่มพูนทักษะในการสื่อสาร
สมองสี่ด้าน รูปแบบการสื่อสารที่แตกต่างกัน
VOICES Model การสื่อสารที่ดีเริ่มต้นจากการฟัง
การใช้คำถามทรงพลัง เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการสื่อสาร
Workshop กำหนดแนวทางในการพัฒนาทักษะในการสื่อสารของตนเอง
ตัวอย่างกิจกรรม ฝึกฝนการสื่อสารในโลกของผู้อื่น ด้วยการเข้าใจวิธีการสื่อสารของสมองแต่ละด้าน
ช่วงที่ 4 Engagement การประยุกต์ใช้การสื่อสารในสถานการณ์จริงของชีวิตและการทำงาน
รูปแบบการนำเสนอให้โดนใจ ด้วยการสื่อสารในโลกของผู้ฟัง
เทคนิคการสื่อสารเพื่อโน้มน้าวและจูงใจผู้อื่น
การสื่อสารเพื่อลดข้อขัดแย้งในการทำงานเป็นทีม
Case Study and Roleplay สร้างแนวทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในสถานการณ์การทำงานที่ไม่เป็นใจ ผ่านการแสดงบทบาทสมมติ
ช่วงถามตอบปัญหา
การบ้านและแนวทางการติดตามผล
กรอบแนวคิดในการฝึกอบรม
แนวทางในการฝึกอบรม Training and Group Coaching ใช้กระบวนการผสมผสานทั้งการ Teaching, Training และ Coaching ในระหว่างการอบรม เพื่อให้ผู้เรียนได้รับทั้งความรู้ ความเข้าใจ ฝึกฝนทักษะ และทัศนคติที่ดี
Teaching for Knowledge เพื่อให้ข้อมูลหรือทำความเข้าใจเนื้อหาตามหัวข้อบรรยาย
Training for Skill เพื่อฝึกทักษะผ่านการทดลองคิด วางแผนและปฏิบัติ ผ่านแบบทดสอบ กิจกรรม และกรณีศึกษา
Coaching for Explore เพื่อสำรวจสิ่งที่เป็นหลุมพราง ความเชื่ออันจำกัด ซึ่งเป็นตัวฉุดรั้งความสำเร็จ และหันมาค้นหาศักยภาพ จุดแข็ง หรือคุณค่าที่ดีที่สามารถนำมาใช้สร้างแนวทางสู่ความสำเร็จของตนเอง
Coaching for Change ใช้กระบวนการ Coaching เพื่อสร้างเป้าหมาย ทางเลือกใหม่ๆ และแรงจูงใจที่จะนำไปสู่การลงมือปฏิบัติให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
Brain Based Learning ทำความเข้าใจธรรมชาติการทำงานของสมองในการเรียนรู้ สร้างสภาวะที่สนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียน ทำให้สมองของผู้เรียนมีความสุข ไม่ทำให้เกิดความกลัวหรือความกังวล เน้นการพัฒนาจากจุดแข็ง และใช้สมองส่วนคิดให้มากขึ้นเพื่อสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ๆ แทนการตกอยู่ใต้อิทธิพลของสมองส่วนอารมณ์ที่เป็นลบ แล้วใช้วงจรพฤติกรรมเดิมในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
Positive Psychology สร้างสภาวะที่พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง ด้วยการสร้างสมดุลของการสนับสนุนและความท้าทาย บนหน้าที่และเป้าหมายที่ตั้งไว้ กระตุ้นให้ผู้เรียนค้นหาคุณค่าของตนเอง และมองเห็นประโยชน์และผลตอบแทนที่มากกว่าปัจจัยภายนอก แต่เป็นการพัฒนาตนเองและการได้ใช้คุณค่าของตนเองในการทำงาน เห็นความสำคัญของการได้ช่วยเหลือผู้อื่นและองค์กรด้วยสิ่งที่ตนมี
ผู้ที่เหมาะสมกับหลักสูตรนี้ ระดับปฏิบัติงาน
หัวหน้างาน
ผู้จัดการระดับต้น
การเรียนรู้ VDO ด้วยระบบ Learning Management Platform (LMP)
รับชมการเรียนรู้ภายใน Classroom ด้วยบวนการ Adult learning
รับชมการให้คำปรึกษาแบบกลุ่มย่อย Group Coaching & Clinic
รับชมการพูดคุยเชิงลึกด้วย 1:1 Coaching & Mentor
รับชมการนำเสนอโครงการเพื่อนำไปปฏิบัติในสถานการณ์จริง
รับชมการนำความรู้สู่การปฏิบัติที่ชัดเจน และการสรุปผลลัพธ์ของการฝึกอบรม
รับชม