หลักสูตรฝึกอบรม Lean Six Sigma Green Belt - หลักสูตร 2 วัน

หลักการและแนวความคิด
การบริหารคุณภาพด้วยหลักการ Six Sigma ถูกพัฒนาขึ้นจากบริษัท Motorola บริษัทชั้นนำในการผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 หลังจากได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าหลักการของ Six Sigma ช่วยให้บริษัทควบคุมคุณภาพในการผลิตได้ขึ้นมากโดยใช้หลักการทางสถิติที่พัฒนาขึ้นมากจากวิธีการควบคุมคุณภาพในอดีต วิธีการของ Six Sigma จึงได้ถูกนำไปใช้ในแทบจะทุกอุตสาหกรรมการผลิต
ในขณะที่ Lean Manufacturing ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากความสำเร็จของ Toyota Production System ให้กลายเป็นวิธีและขั้นตอนปฏิบัติ แทนที่จะเป็นการพัฒนาวัฒนธรรมการทำงานแบบค่อยเป็นค่อยไปซึ่งต้องใช้เวลาหลายสิบปีอย่างที่โตโยต้าพัฒนาขึ้นมา
Six Sigma เน้นวิธีการทำงานเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีความผิดพลาดเข้าใกล้ศูนย์ ในขณะที่ Lean Manufacturing เน้นการลดความสิ้นเปลืองสูญเปล่า และระเบียบวินัยในการทำงาน การรวมตัวกันของ Lean และ Six Sigma จึงเกิดขึ้น เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีและไม่สิ้นเปลืองตลอดห่วงโซ่อุปทานจนถึงมือลูกค้า
ทุกองค์กรที่ได้นำ Lean Six Sigma Methodology เข้าไปปรับใช้ในการบริหารงาน และการผลิต ต่างได้รับผลสำเร็จของต้นทุนสินค้าและค่าใช้จ่ายที่ลดลง ในขณะที่จำนวนยอดขายและผลกำไรเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการทำงานที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทั้งองค์กร

วัตถุประสงค์
 ความเชี่ยวชาญในการนำ Lean Six Sigma ไปใช้ถูกแบ่งออกเป็นระดับขั้น ตั้งแต่ระดับแรกเข้า (White Belt) ระดับมือใหม่ (Yellow Belt) ระดับปฏิบัติการ (Green Belt) ระดับผู้รับผิดชอบโครงการ (Black Belt) จนถึงระดับผู้เชี่ยวชาญ (Master Black Belt) และผู้บริหาร (Champion or Sponsor)
ในระดับขั้นต่าง ๆ นั้น Green Belt นับว่ามีความสำคัญมากที่สุด เปรียบได้กับเครื่องยนต์ของรถยนต์ เพราะ Green Belt เป็นระดับที่อยู่หน้างาน ต้องใช้เครื่องมือทางความคิดต่าง ๆ และทักษะที่จำเป็นในการแก้ไขปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ประสบผลสำเร็จ
ให้ความรู้ในการใช้ DMAIC (ห้าหลักการของ Six Sigma) ในการจัดการกับปัญหาคุณภาพ หรือการปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้น
การสร้างวัฒนธรรมแห่ง Lean ในการทำให้องค์กรทำงานได้อย่างกระฉับกระเฉงว่องไว
การใช้หลักการของ Lean Management เพื่อกำจัดสิ่งสูญเปล่าในการทำงาน 8 อย่าง

รายละเอียดเนื้อหาของหลักสูตร (Course Outline)
 หลักสูตรจะคำนึงถึงแนวทางการเรียนรู้หรือที่เรียกว่า Road Map ดังนี้
      Mindset – ปรับความคิดและทัศนคติของผู้เข้าอบรมให้มองโลกในมุมกว้าง และคำนึงถึงคุณภาพของการทำงานทุกลมหายใจ
      Toolset – เรียนรู้เครื่องมือทางความคิดที่สำคัญ
      Skillset – เพิ่มทักษะในการใช้เครื่องมือผ่าน Workshop
Day 1: Six Sigma
      อะไรคือ Six Sigma สำคัญอย่างไร และช่วยอะไรในการแก้ไข หรือควบคุมปัญหาทางคุณภาพ
      DMAIC
        Define – การระบุตัวปัญหาอย่างรอบด้านและตรงประเด็น
             • Tools ที่ใช้ VOC (Voice of Customer), Kano Model, HOQ (House of Quality)
        Measure - การวัดและการเก็บข้อมูลจากการผลิต
             • Tools ที่ใช้ Control Chart, Histogram, Cp, Cpk, MSA GR&R
        Analysis – การวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา
             • Tools ที่ใช้ Pareto, Ishikawa diagram, Six Hats, Matrix diagram
        Improve – การนำวิธีการแก้ปัญหามาใช้
             • Tools ที่ใช้ 8D Report
        Control - การควบคุมให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืน
             • Tools ที่ใช้ FMEA, Control Plan, WI
        DFSS (Design for Six Sigma) การออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือขั้นตอนการทำงานที่จะทำให้เกิดปัญหาคุณภาพน้อยที่สุด

Day 2: Lean Manufacturing
      จุดกำเนิดของ Lean หลักการ เป้าหมาย และวัฒนธรรมแบบ Lean
      หลักแห่งการ ลด ละ เลิก
      การผลิตแบบดึง และซุปเปอร์มาเก็ต
      การลดสิ่งสูญเปล่า 8 อย่าง
            • ผลิตมากเกินไป
            • ขนย้ายบ่อยเกินไป
            • คอยนานเกินไป
            • เก็บสินค้าระหว่างผลิตมากไป
            • ขยับตัวมากเกินไป
            • มีของเสียจากการผลิตมากไป
            • ขั้นตอนการทำงานซับซ้อนเกินไป
            • ใช้คนไม่คุ้มกับความรู้ความสามารถ
      VSM (Value Stream Mapping) การวิเคราะห์การเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ระหว่างการผลิต
      CPM (Critical Part Method) การศึกษาเส้นทางวิกฤติของการทำงาน