หลักสูตรฝึกอบรม การพัฒนาคุณสมบัติภาวะผู้นำที่มีประสิทธิผลสูง - หลักสูตร 1 วัน
(Professional Leadership Traits for Success)

หน้าแรก / รวมหลักสูตรฝึกอบรม / หมวดทั่วไป (Other) / หลักสูตรฝึกอบรม การพัฒนาคุณสมบัติภาวะผู้นำที่มีประสิทธิผลสูง (Professional Leadership Traits for Success)

ติดต่อสอบถาม
  093-649-3561 / 084-164-2057 (HOTLINE)
  asst.entraining@gmail.com, cocoachentraining@gmail.com

หลักการและเหตุผล
   “ผู้นำ” เป็นมากกว่าคำเรียกขานของตำแหน่งที่ดูภูมิฐานเท่านั้น แต่องค์การจะประสบความสำเร็จได้จะต้องมีผู้นำที่มีประสิทธิผลสูงอยู่ในทุกระดับ กล่าวคือ บุคลากรทุกคนขององค์การจะต้องมีภาวะผู้นำ ซึ่งประกอบด้วยคุณสมบัติที่แสดงถึงความเป็นผู้มีประสิทธิผลที่ผ่านการบ่มเพาะอย่างต่อเนื่องจนสามารถใช้คุณสมบัติความเป็นผู้นำบริหารนำพาองค์การไปสู่เป้าหมายที่ต้องการบรรลุได้ 

"พัฒนาคุณสมบัติพื้นฐานของผู้นำแห่งอนาคตที่มีประสิทธิผลสูง และดึงศักยภาพของคุณสมบัติความเป็นผู้นำในตัวเองมาใช้ให้เต็มที่" 

ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก ทำให้บุคลากรสมัยใหม่ต้องมีศักยภาพพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง จากบทบาทที่เคยแค่ทำหน้าที่ปฏิบัติการ หรือบริหารจัดการและสั่งการในกรณีที่เป็นผู้บริหารเพื่อให้ทีมงานดำเนินการตามเป้าหมายนั้น ไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว บุคลากรแห่งอนาคตต้องสามารถปรับตัวเองมาเป็นผู้นำทางให้เกิดการปฎิรูปซึ่งสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคลากรอื่นๆในองค์การ ใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มความสามารถ และทำให้ทุกคนทำงานตามความสามารถอย่างสอดประสานและมุ่งมั่นสู่เป้าหมายขององค์การร่วมกัน (Collaboration) 
องค์การโดยส่วนใหญ่ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย อย่างราบรื่นหรือไม่สามารถขยายธุรกิจให้ก้าวหน้าได้มากเท่าที่ต้องการ สาเหตุสำคัญเรื่องหนึ่งคือ การขาดแคลนบุคลากรที่มีแรงบันดาลใจในการทำงาน และไม่ค่อยทุ่มเทด้วยความกระตือรือร้นมุ่งมั่นในเป้าหมาย และการขาดคุณสมบัติภาวะความเป็นผู้นำที่มีประสิทธิผล ปัญหาที่สำคัญของบุคลากร คือ บุคลากรไม่ค่อยทราบถึงเป้าหมายขององค์การ หรือเป้าหมายขององค์การกับเป้าหมายส่วนตัวในงานไม่สอดคล้องกัน จึงไม่ทราบว่าองค์การกำลังจะไปในทิศทางไหน อย่างไร กำหนดลำดับความสำคัญของเป้าหมายไม่เหมาะสม ทำให้กิจการขององค์การไม่เคลื่อนไปข้างหน้าเท่าที่ควรจะเป็น 
การพัฒนาภาวะผู้นำให้เกิดขึ้นในองค์การ เพื่อให้ส่งผลต่อการดำเนินงานของธุรกิจนั้น ระบบการเรียนรู้ต้องทำให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการปฏิบัติงาน ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและแผนงานจนสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน 
การพัฒนาให้เกิดผลสูงสุดต่อองค์การ จำเป็นต้องมีการพัฒนากลุ่มพนักงานที่มีความสำคัญต่อองค์การ ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนหลัก ได้แก่ กลุ่มผู้บริหารระดับกลาง ผู้จัดการ และหัวหน้างานให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่จะส่งผลกระทบต่อองค์กรโดยรวม ด้วยการพัฒนาคุณสมบัติภาวะผู้นำที่มีประสิทธิผลสูงให้เกิดมีขึ้นในตัวของบุคลากรกลุ่มดังกล่าวเหล่านี้

วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้รับการอบรมเข้าใจคุณสมบัติที่สำคัญของการเป็นผู้มีประสิทธิผลสูง เข้าใจแนวทางสำหรับการพัฒนาตนเองให้มีคุณสมบัติดังกล่าว และสามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างคล่องแคล่วกับงานและชีวิตส่วนตัวเพื่อการบรรลุผลสำเร็จในด้านต่างๆที่ต้องการ 
ทำให้ผู้รับการฝึกอบรมสามารถนำศักยภาพที่มีอยู่ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของบุคคลรอบข้าง เช่น ผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชา 
เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในความสำคัญของตัวเองและพัฒนาคุณค่าในตัวเองตามแนวทางที่เหมาะสมโดยดึงศักยภาพที่ซ้อนเร้นอยู่ออกมาใช้ 
เพื่อทำให้บุคลากรปรับเปลี่ยนแนวความคิดของตัวเองที่มีต่อองค์กรและงาน, เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างานและชีวิตของตัวเองใหม่ในการส่งเสริมทัศนคติเชิงบวกให้สูงขึ้น
เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ด้วยตัวเอง โดยเลือกพัฒนาคุณสมบัติภาวะผู้นำของตนเองอย่างมีเป้าหมายที่ชัดเจน โดยสร้างความความเชื่อมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นบุคคลที่มีประสิทธิผลสูง

รายละเอียดของหลักสูตรฝึกอบรม
 พิเคราะห์และเข้าใจตนเอง มุ่งสู่ความมีประสิทธิผลและความสำเร็จยิ่งๆขึ้น
         การสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นดึงศักยภาพความเป็นผู้นำในตัวเอง
              - คุณเป็นในสิ่งที่คุณความคิด
       
       - เปลี่ยนชีวิตให้ประสบความสำเร็จ จากการเข้าใจตัวเองอย่างแท้จริง คุณเป็นใคร? คุณต้องการมีชีวิตอย่างไรในอนาคต?
       
       - ปลดพันธนาการของความสำเร็จ อะไรฉุดรั้งคุณไว้?
       
       - Self SWOT ก้าวแรกสู่ความสำเร็จ
              กิจกรรมกระตุ้นพลัง : คุณทำได้มากกว่าที่คุณคิด (พิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง)
         สำรวจแนวความคิดเกี่ยวกับผู้นำของตัวเอง
              - คุณอยากเป็นผู้นำหรือไม่?
       
       - คุณเป็นผู้นำแบบไหน?
       
       - คุณพัฒนาภาวะผู้นำในตัวเองอย่างไร?
       
       - ความเชื่อเกี่ยวกับผู้นำของคุณ?
              กิจกรรมสร้างวิธีคิดแบบผู้นำ : สอนตัวเองถึงความเป็นผู้นำ (จากรูปธรรมสู่นามธรรม)
          การเปลี่ยนแปลงตัวเอง...หัวใจของความเป็นผู้นำ
              - หลุมพรางทางความคิดที่สกัดกั้นความเป็นผู้นำ
       
       - เรียนรู้ธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง
       
       - รู้จักและเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์
       
       - ผลลัพธ์ความสำเร็จและความล้มเหลว ใครกำหนด? ทุกสิ่งทุกอย่างคุณเลือกเอง!!!
                         - ทัศนคติเชิงบวกคือทางเลือก
                         - 
คุณสมบัติของผู้นำคิดเชิงบวก
                         - 
พลังแห่งการคิดบวก
                         - 
เปลี่ยนความคิด...ชีวิตเปลี่ยน
         เทคนิคการเอาชนะหลุมพรางทางความคิด
         Workshop I : การเอาชนะหลุมพราง ทางความคิด
         กรณีศึกษา : การเอาชนะหลุมพราง


คุณสมบัติภาวะผู้นำที่มีประสิทธิผลสูง
         ต้นแบบบุคลากรสมัยใหม่และผู้นำแห่งอนาคตที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูง
              Workshop II : สร้างแบบจำลองคุณสมบัติผู้นำที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูง (Professional Leadership Traits of Success)
       
       การใช้วงจรพฤติกรรมเพื่อพัฒนาคุณสมบัติผู้นำในตัวเอง (My Way : เทคนิคจากความเชื่อสู่การเปลี่ยนพฤติกรรม)
          ปฏิบัติการเปลี่ยนตัวเองสู่ความเป็นผู้นำแห่งอนาคตที่มีประสิทธิผลสูง
              Trait 1 : Proactive Response (ตอบสนองเชิงรุก)
                         - การเข้าควบคุมสถานการณ์แบบเบ็ดเสร็จ ด้วยการเป็นผู้เลือกตอบสนองเชิงรุก
                         - การเปลี่ยนพฤติกรรมที่เคยชินที่ไร้พลัง (Reactive) สู่พฤติกรรมที่ให้พลัง (Proactive) ด้วยการเปลี่ยนวิธีการคิด การกระทำ และคำพูด
       
       Trait 2 : Visionary and Goal Setting
                         - อะไรสำคัญสำหรับคุณ (รู้จักจอมบงการที่ชักใยชีวิตของคุณ)
                         - ความสำเร็จในนิยามของคุณคืออะไร?
                         - กำหนดคุณค่าและจัดสำดับคุณค่าเพื่อจัดระเบียบชีวิตสู่ความสำเร็จ
                         - อะไรคืออุปสรรคของคุณ?
                         - คุณมีความเชื่ออย่างไร? เปลี่ยนตัวเองสู่ความสำเร็จด้วยการสร้างค่านิยมและความเชื่อใหม่
                         - Workshop III : ออกแบบชีวิตตัวเองด้วยการกำหนดเป้าหมายและสร้างแผนการเปลี่ยนแปลงที่มีพลัง
       
       Trait 3 : Priority (การลำดับความสำคัญ)
                         - เรียนรู้เกี่ยวกับงานและประเภทของงาน (สำคัญและเร่งด่วน)
                         - เทคนิค ABCDE สำหรับการบริหารและลำดับความสำคัญของงาน
                         - Workshop IV : ออกแบบแผนการทำงานประจำสัปดาห์แบบผู้นำที่มีประสิทธิผลสูง
       
       Trait 4 : All Win Thinking (คิดแบบประโยชน์ร่วมกัน)
                         - เข้าใจคุณค่าและความสนใจของผู้อื่น
                         - การเข้าใจภาพรวมของสถานการณ์ ชนะ-ชนะ, ชนะ-แพ้, แพ้-แพ้, ชนะร่วมกัน
                         - Workshop V : บทเรียนจากสถานการณ์จำลอง การแบ่งผลประโยชน์ และสงครามราคา
       
       Trait 5 : เข้าใจคนอื่นก่อนจะให้คนอื่นเข้าใจเรา (Seek First to Understand, Then to be Understood)
                         - อย่านำคุณค่าของตนเองไปเป็นมาตรฐานตัดสินคุณค่าของผู้อื่น
                         - UNO Personality และการประยุกต์เพื่อการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นอย่างสัมฤทธิ์ผล
       
       Trait 6 : การสร้างความร่วมมือ (Collaboration)
                         - เข้าใจที่มาของความคิดที่แตกต่างหรือขัดแย้ง
                         - การลดทอนความคิดที่แตกต่างด้วยการทำให้เห็นภาพรวม
                         - การใช้ประโยชน์จากความคิดที่แตกต่างหรือขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์
       
       Trait 7 : พัฒนาต่อเนื่อง (Continuous Development)
                         - พัฒนา 4 มิติ (กายภาพ อารมณ์ สติปัญญา และจิตวิญญาณ)
                         - พัฒนาต่อเนื่องด้วยแนวคิด PDCA และ Personal Kaizen

         การบ้านเพื่อการนำไปฝึกฝนและปฏิบัติจริง

แนวทางการฝึกอบรม
  การเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ (Adult Learning) โดยผู้เรียนเป็นบุคคลสำคัญที่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง และนำความรู้ ที่ได้เรียนรู้ไปใช้ได้ในทันที ด้วยแนวทางของตัวเอง 
แนวทางของโปรแกรมและเป้าหมายจะให้ผู้บริหารระดับสูงมีส่วนร่วมในการกำหนด เพื่อให้ได้ทิศทางที่องค์กรต้องการ และเพื่อให้สามารถ ดำเนินการต่อไปได้อย่างยั่งยืนภายหลังจากที่จบสิ้นโปรแกรมการพัฒนาแล้ว
กิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง
          การบรรยายเนื้อหา
          Work shop สร้างสถานการณ์
          เกมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
          การบ้านเพื่อการนำไปฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
ผู้บริหารระดับสูงควรมีส่วนร่วมในการฝึกอบรม เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของผู้รับการอบรม ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด จะได้สามารถสนับสนุนช่วยเหลือให้เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นธรรมชาติในที่สุด ในระหว่างการทำงานปกติ

วิทยากรทำหน้าที่เพียงผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ (Facilitator) ทำให้การพัฒนาเป็นไปตามธรรมชาติของผู้เรียนรู้นั้นๆ โดยการเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยตัวเอง

ขอบเขตของเนื้อหาการฝึกอบรม
   การฝึกอบรมจะมุ่งเน้นให้เข้าใจ และเกิดแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาคุณสมบัติภาวะผู้นำที่มีประสิทธิผลสูงให้มีขึ้นในตนเองจากการเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง ปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองในสไตล์ของตัวเองซึ่งเนื้อหาการอบรมประกอบไปด้วย

คุณสมบัติของบุคคลที่มีประสิทธิผลสูงสำหรับผู้นำแห่งอนาคต
   การแสดงออกและตอบสนองเชิงรุก (Proactive Response) : ผู้นำแห่งอนาคตต้องสามารถควบคุมสถานการณ์ด้วยการเลือกตอบสนองอย่างเหมาะสม กระทำการในเชิงรุกด้วยการกำหนดทางเลือกให้กับตนเอง พึ่งพาตนเองมากขึ้น และรับผิดชอบต่อการตัดสินใจต่อผลจากการเลือกตอบสนองของตนเอง
   มีวิสัยทัศน์ส่วนบุคคลและมีเป้าหมายที่ชัดเจน (Visionary and Goal Setting) : ผู้นำแห่งอนาคตต้องเข้าใจและรู้ถึงความต้องการความสำเร็จของตนเองอย่างแท้จริง ด้วยการแสดงความมีวิสัยทัศน์อย่างเป็นรูปธรรมที่เปรียบเสมือนมโนทัศน์แห่งเป้าหมายที่ตนเองต้องการบรรลุได้อย่างชัดเจนทั้งเป้าหมายส่วนตัวและเป้าหมายในงาน
   ลำดับความสำคัญ (Priority) : ผู้นำแห่งอนาคตต้องรู้ว่าสิ่งใด งานและกิจกรรมอะไรที่สำคัญและมีคุณค่าต่อการบรรลุเป้าหมายแห่งตน สามารถบริหารทรัพยากรและเวลาได้อย่างเหมาะสม ทำในสิ่งที่สำคัญตามลำดับ (First Things First)
   คิดแบบประโยชน์ร่วมกัน (All Win Thinking) : การอยู่ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ มีความร่วมมือในการทำงาน สามัคคีไปสู่เป้าหมายร่วมกัน จะเกิดเป็นจริงขึ้นเมื่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง(ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด)อยู่ในสภาวะสมดุลของประโยชน์ร่วมกัน (Win-Win Situation)
  เข้าใจผู้อื่นก่อน ก่อนให้ผู้อื่นเข้าใจเรา (Seek First to Understand, then to be understood) : ผู้นำแห่งอนาคตต้องสามารถสื่อสารกับผู้อื่นแบบหวังผลสำเร็จได้เพื่อให้ได้ทั้งงานและได้ทั้งใจไปพร้อมๆกัน ดังนั้นจึงต้องมีความสามารถเป็นผู้รับฟังที่ดี(วจนะและอวัจนภาษา) ทั้งนี้เพื่อให้การปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นเกิดประสิทธิผลตามที่ตนต้องการ
   การสร้างความร่วมมือ (Collaboration) : การขับเคลื่อนภารกิจการงานใดๆให้ประสบผลสัมฤทธิ์จะต้องอาศัยทักษะ ความรู้ ที่หลากหลายจากบุคคลต่างๆ ดังนั้นการประสานความหลากหลายและแตกต่างระหว่างบุคคลในทีมงานให้ไปในทิศทางที่สอดประสานกัน(Alignment) จึงมีความสำคัญ ผู้นำแห่งอนาคตจะต้องสามารถประสานพลังความร่วมมือ (Synergy) ให้เกิดขึ้นในทีมงาน
   พัฒนาต่อเนื่อง (Continuous Development) : ปัจจุบันการแข่งขันรุนแรงและโลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ผู้นำแห่งอนาคตขององค์กรต้องพร้อมเสมอสำหรับการเปลี่ยนแปลง และควรเป็นตัวแทนการเปลี่ยนแปลง (Change Agent) ด้วยซ้ำ ซึ่งจะต้องพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเรียนรู้และปรับปรุงตนเองอย่างสม่ำเสมออย่างสมมดุลทั้งในด้านกายภาพ อารมณ์ จิตวิญญาณ และทักษะความสามารถ ด้วยการฝึกฝนตนเองเกี่ยวกับคุณสมบัติข้างต้นอย่างสม่ำเสมอ

ออกแบบการเรียนรู้อย่างครบวงจร (6 Step Learning Model) ได้ตามต้องการ
(Blended learning)

Step 1 : การจัดทำวิดีโอออนไลน์ Micro Learning

การเรียนรู้ VDO ด้วยระบบ Learning Management Platform (LMP)

  รับชม

Step 2 : การดำเนินการสอนด้วย Classroom / Virtual Classroom

การเรียนรู้ภายใน Classroom ด้วยบวนการ Adult learning

  รับชม

Step 3 : การให้คำปรึกษาแบบกลุ่มย่อย Group Coaching & Clinic

การให้คำปรึกษาแบบกลุ่มย่อย Group Coaching & Clinic

  รับชม

Step 4 : การพูดคุยเชิงลึกด้วย 1 on 1 Coaching & Mentor

การพูดคุยเชิงลึกด้วย 1:1 Coaching & Mentor

  รับชม

Step 5 : การนำเสนอโครงการปฏิบัติงานจริง (Project Assignment)

การนำเสนอโครงการเพื่อนำไปปฏิบัติในสถานการณ์จริง

  รับชม

Step 6 : การติดตามผลลัพธ์การเรียนรู้ (Follow Up)

การนำความรู้สู่การปฏิบัติที่ชัดเจน และการสรุปผลลัพธ์ของการฝึกอบรม

  รับชม