เปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ชีวิตดีขึ้นแน่นอน : เต็มใจให้พลังผู้อื่นแล้วเลิกดูดพลังผู้อื่นกันเถอะ

คนส่วนใหญ่หวังดีต่อผู้อื่น อยากให้ผู้อื่นได้ดีเมื่อเจอสิ่งผิดพลาดของใครก็มักจะให้คำแนะนำโดยการชี้จุดที่ผิดพลาดของเขา ซึ่งจริงๆ แล้วธรรมชาติของมนุษย์ชอบคำชมมากกว่าคำตำหนิ และอยากให้ผู้อื่นให้การยอมรับในความเป็นตัวของเขา ไม่ใช่มาตรฐานที่คนอื่นมองเขา ผู้นำ (หัวหน้างาน) หลายคนจึงดูดพลังทีมงานไปโดยไม่รู้ตัว เพราะชอบติหรือตำหนิถึงแม้ว่าจะหวังดีก็ตาม และชอบใช้มาตรฐานของตัวเองเปรียบเทียบกับทีมงาน จึงมักใช้คำว่า พี่อยากให้เธอดีขึ้นนะ แต่ในขณะที่คนฟังจะรู้สึกหมดกำลังใจ (โดนดูดพลังไป)

เปลี่ยนวิธีคิดใหม่ด้วยตัวเอง
การเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์จะทำให้เราสามารถให้พลังผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น โดยการปฏิบัติต่อเขาในสิ่งที่เขาต้องการ เช่น
 เพิ่มคำชมให้มากขึ้น...ลดคำตำหนิลง
ยอมรับในตัวเขา...แทนที่จะใช้มาตรฐานของเรา
ให้กำลังใจข้อดีของเขา...หลีกเลี่ยงการพูดถึงข้อเสียที่เขามี
 จูงใจให้เขาเปลี่ยนแปลงเอง...เลิกบังคับให้เขาได้ดั่งใจเรา

ตั้งเป้าหมายว่าจะให้พลังผู้อื่นตลอดเวลา โดยการให้ความสำคัญที่ตัวเขา ไม่ใช่ความต้องการของเราเป็นหลัก เพราะเมื่อเราต้องการและคาดหวังก็จะทำให้เราสนใจแต่ตัวเรา เขาก็จะหมดกำลังใจหรือสร้างความเครียดให้กับเขา เท่ากับว่าเราดูดพลังเขาไป

การประยุกต์ใช้กับเหตุการณ์ต่างๆ
เราพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นดีกว่า ถึงแม้ว่าสภาพแวดล้อมยังเหมือนเดิมก็ตาม
 หัวหน้าว่ากล่าวตักเตือนเรา เราคงแก้ไขเปลี่ยนแปลงตัวเองดีว่าน้อยใจนะ
 คนอื่นชอบดูถูกเรา เราคงห้ามเขาไม่ได้ แต่เราเชื่อมั่นว่าเรามีข้อดีอยู่ เดี๋ยวพัฒนาต่อดีกว่า
 เพื่อนๆ ไม่ช่วยงานเลย รอเขามาคงไม่ทัน เราทำมากขึ้นก็ได้จะได้เก่งขึ้น
 เราเต็มที่แล้ว ยังโดนด่าอีก สงสัยว่าเรายังเพิ่มเติมเรื่องอะไรได้อีกบ้างเนี่ย

สิ่งที่คุณได้รับและสิ่งที่คุณจะนำไปปฏิบัติและฝึกฝนอย่างไร?