หลักสูตรฝึกอบรม การบริหารงานเพื่อเพิ่มประสิทธิผลและลดต้นทุนในการทำงาน - หลักสูตร 1 วัน
(Effective Management for Increase Productivities and Cost down)

หน้าแรก / รวมหลักสูตรฝึกอบรม / Management and Productivity / หลักสูตรฝึกอบรม การบริหารงานเพื่อเพิ่มประสิทธิผลและลดต้นทุนในการทำงาน (Effective Management for Increase Productivities and Cost down)

ติดต่อสอบถาม
  084-164-2057 / 093-649-3561 (HOTLINE)
  asst.entraining@gmail.com, cocoachentraining@gmail.com

หลักการและเหตุผล
  “การกำหนดเป้าหมาย คือ การระบุชี้ชัดถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการจะไปให้ถึง ส่วนการวางแผน คือ การกำหนดวิธีการและระยะเวลาที่จะต้องเดินทางไปให้ถึงจุดหมายปลายทางนั้น” จากประโยคดังกล่าวพอจะทำให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่าการกำหนดเป้าหมาย และการวางแผนงานนั้นมีความสำคัญอย่างไร การปราศจากซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เหมือนกับการเดินทางด้วยวิธีต่างๆ โดยไม่รู้จุดหมายปลายทางและวิธีการที่จะไป ออกวิ่งโดยไม่มีเส้นชัย ขับรถโดยไม่รู้ว่าจะไปไหน แล่นเรือโดยไร้ทิศทาง สิ่งที่ได้จากเดินทางโดยรูปแบบนี้คือความสูญเสียและความสิ้นเปลืองนั่นคือเวลาและพลังงาน โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่สูญเสียไปจะพาไปถึงจุดหมายหรือไม่ การทำงานก็เช่นกัน หากปราศจากซึ่งเป้าหมายและแผนงานแล้ว ความสุญเสียก็จะเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเวลา ทรัพยากร งบประมาณ ซึ่งสิ่งที่สูญเสียไปนั้นอาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อองค์กรไม่ว่าจะเป็นผลการดำเนินงาน หรือความมั่นใจจากลูกค้า ในขณะเดียวกันถ้าองค์กรใดสามารถพัฒนาให้บุคลากรทำงานโดยยึดหลักการกำหนดเป้าหมาย และวางแผนงานอย่างถูกต้อง จะส่งผลดีต่อองค์กรในทิศทางตรงกันข้าม ไม่ว่าต้นทุนการทำงานที่ประหยัดลง ผลกำไรที่เพิ่มขึ้น ระยะเวลาที่อยู่ในกรอบที่ทางองค์กรต้องการ รวมทั้งความพึงพอใจของลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องใน Value Chain ขององค์กรนั้นๆ

  การวางแผนงานเป็นทักษะที่จำเป็นไม่ใช่เฉพาะระดับผู้บริหารหรือผู้จัดการเท่านั้น แต่ระดับหัวหน้างานและระดับปฏิบัติการก็มีความจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ทักษะนี้ และต้องนำไปประยุกต์ใช้กับขอบเขตงานและความรับผิดชอบที่มีอยู่ ซึ่งการวางแผนงานในระดับผู้บริหารจะเป็นการวางแผนงานในเชิงกลยุทธ์ เพื่อให้องค์กรบรรลุพันธะกิจที่องค์กรกำหนดไว้ ส่วนระดับผู้จัดการก็ต้องนำพันธะกิจนั้นมากำหนดเป็นนโยบายของแผนก และวางแผนงานเชิงยุทธวิธีเพื่อให้สอดคล้องกับพันธะกิจขององค์กรที่กำหนดไว้ จากนั้นระดับหัวหน้างานกับระดับปฏิบัติการต้องนำ นโยบายของแผนกมากำหนดเป็นเป้าหมายเชิงปฏิบัติการ และต้องวางแผนงานเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สอดคล้องกับเป้าหมาย ระดับนโยบายแผนกที่กำหนดไว้ จะเห็นได้ว่าทุกแผนกทุกคนในองค์กรย่อมเกี่ยวข้องกับการกำหนดเป้าหมาย และการวางแผนงานกันทุกฝ่าย เพียงแต่แตกต่างกันในขนาดหรือสเกลความรับผิดชอบตามลำดับเท่านั้นเอง 
  การบริหารกระบวนการทำงานเพื่อลดต้นทุนหรือความสูญเสียต่างๆ เกิดจากจิตใต้สำนึกหรือหลักคิด (Mindset) ของผู้ปฏิบัติการ จึงควรมุ่งเน้นให้ผู้ปฏิบัติการมองเห็นประโยชน์ที่เขาจะได้รับจากการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ได้แก่ การได้ใช้จุดเด่นหรือจุดแข็งในการทำงานมากขึ้น การส่งต่อคุณค่าในงานต่อผู้อื่น เป็นต้น จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดแรงจูงใจในการพัฒนาตัวเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งจะส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อหน่วยงานหรือองค์กรด้วยเช่นกันเมื่อพนักงานมีผลปฏิบัติงานหรือ Productivities เพิ่มมากขึ้น 
  การบริหารเวลาที่มีกับสภาวะการทำงานที่มีการแข่งขัน การวางแผนงานอย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถช่วยให้มีเวลาเพิ่มในการทำงานได้ เนื่องจากแผนงานจะช่วยลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นหรือไม่ทำให้เกิดประโยชน์ลง ซึ่งการวางแผนงานที่จะมีประสิทธิภาพได้นั้น ต้องอาศัยการเข้าใจในระบบงาน หรือระบบสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับงานหรือเป้าหมายที่ต้องการจะวางแผน เพื่อให้แผนงานนั้นมีความครอบคลุมและรัดกุม โดยที่มั่นใจได้ว่าจะไม่ละเลยประเด็นหรือกิจกรรมที่สำคัญไปได้

วัตถุประสงค์
 เพื่อให้ผู้เรียนได้แนวทาง, หลักการและความรู้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในจัดการกับปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่
เพื่อให้ผู้เรียนมองเห็นประโยชน์ที่ตนเองจะได้รับจากการเปลี่ยนแปลงตัวเองในเรื่องต่างๆ
เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจถึงหลักการการกำหนดเป้าหมาย การวางแผน การกำหนดตัวชี้วัดและการติดตามประเมินผล รวมทั้งนำเครื่องมือที่ได้เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้กับการทำงานได้ดียิ่งขึ้น
เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจถึงหลักการบริหารเวลาและทรัพยากรที่มีอยู่ และนำไปใช้อย่างเหมาะสมและเกิดประสิทธิผลที่สุด
เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักคิดอย่างเป็นระบบเพื่อนำมาประยุกต์ในการวางแผนงาน

รายละเอียดของหลักสูตรฝึกอบรม
 PART 1: ภาพรวมของการคิดที่ส่งผลต่อกระบวนการทำงาน 
       ความหมายของการคิด 
       กระบวนการคิดและการทำงานของสมอง 
       ทักษะการคิด5ประเภท (คิดเพื่อแก้ปัญหา,คิดเชิงวิเคราะห์,คิดเชิงสร้างสรรค์,คิดเชิงกลยุทธ์,คิดเชิงบูรณาการ)
       กระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ
       Workshop : ประยุกต์ใช้กระบวนการคิดกับการทำงานในปัจจุบัน

PART 2 : ปรับแนวคิดเกี่ยวกับกระบวนการกำหนดเป้าหมายและการวางแผนงาน
       สำรวจแนวคิดเกี่ยวกับการกำหนดเป้าหมายและการวางแผนงาน
       แผนงานช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความสูญเสียได้อย่างไร 
       หลุมพรางทางความคิดเชิงลบเกี่ยวกับการวางแผนงานและการกำหนดเป้าหมาย 
       เทคนิคในการเอาชนะหลุมพรางทางความคิด 
       เป้าหมายที่ชัดเจนส่งผลต่อการพัฒนาตัวเองในการทำงานได้อย่างไร 
       Workshop : วิเคราะห์หลักการวางแผนงานที่ท่านกำหนดใช้อยู่ในปัจจุบัน 
PART 3: ลดความสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยหลักคิด PDCA
       เข้าใจลักษณะของความสูญเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการทำงาน 
       หลุมพรางทางความคิดเกี่ยวกับความสูญเสียในการทำงาน 
       นิยามและหลักการของ PDCA 
       PDCA ช่วยสร้างความแตกต่างของผลลัพธ์ในการทำงานเช่น เพิ่มProductivities,ลดต้นทุน ได้อย่างไร
       Workshop : การประยุกต์ใช้หลักคิด PDCAเพื่อลดความสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์

PART 4: พัฒนาทักษะการบริหารเวลาในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 
       สร้างแนวคิดเกี่ยวกับการบริหารเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด 
       หลุมพรางทางความคิดเกี่ยวกับการบริหารเวลาที่ส่งผลกระทบต่อการทำงาน 
       เพิ่มเวลาในการทำงานการจัดประเภทของงานที่รับผิดชอบ 
       เทคนิคและเครื่องมือสำหรับจัดการงานกับเวลาที่มีอยู่ให้เป็นไปตามเป้าหมายและแผนงาน
       Workshop : ประยุกต์ใช้เครื่องมือกับงานในปัจจุบัน


แนวทางการฝึกอบรม
 การเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ (Adult Learning) โดยผู้เรียนเป็นบุคคลสำคัญที่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง และนำความรู้ที่ได้เรียนรู้ไปใช้ได้ในทันที ด้วยแนวทางของตัวเอง
การฝึกอบรมมีความหลากหลาย เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และ คิดถึงสถานการณ์ การทำงานของตัวเอง 
       การบรรยาย : เน้นเนื้อหาที่ใกล้ตัว เพื่อให้ง่ายต่อการเรียนรู้
       Work Shop : กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
       การนำเสนอ : เกิดการฝึกฝนการแสดงออกและทำงานเป็นทีม
       Role Playing : ทำให้เห็นสถานการณ์จริง โดยการแสดงแบบสมมติ 
       การตอบคำถาม : จูงใจให้ผู้ฝึกอบรมได้คิด และแสดงความคิดเห็น 
       การบ้านเพื่อการนำไปฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง 
วิทยากรทำหน้าที่เพียงผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ (Facilitator) ทำให้การพัฒนาเป็นไปตามธรรมชาติของผู้เรียนรู้นั้นๆ โดยการเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยตัวเอง

ผู้ที่เหมาะสมกับหลักสูตรนี้
หัวหน้างานทุกระดับ
ผู้จัดการ 
Staff / พนักงานระดับปฏิบัติการ

ออกแบบการเรียนรู้อย่างครบวงจร (6 Step Learning Model) ได้ตามต้องการ
(Blended learning)

Step 1 : การจัดทำวิดีโอออนไลน์ Micro Learning

การเรียนรู้ VDO ด้วยระบบ Learning Management Platform (LMP)

  รับชม

Step 2 : การดำเนินการสอนด้วย Classroom / Virtual Classroom

การเรียนรู้ภายใน Classroom ด้วยบวนการ Adult learning

  รับชม

Step 3 : การให้คำปรึกษาแบบกลุ่มย่อย Group Coaching & Clinic

การให้คำปรึกษาแบบกลุ่มย่อย Group Coaching & Clinic

  รับชม

Step 4 : การพูดคุยเชิงลึกด้วย 1 on 1 Coaching & Mentor

การพูดคุยเชิงลึกด้วย 1:1 Coaching & Mentor

  รับชม

Step 5 : การนำเสนอโครงการปฏิบัติงานจริง (Project Assignment)

การนำเสนอโครงการเพื่อนำไปปฏิบัติในสถานการณ์จริง

  รับชม

Step 6 : การติดตามผลลัพธ์การเรียนรู้ (Follow Up)

การนำความรู้สู่การปฏิบัติที่ชัดเจน และการสรุปผลลัพธ์ของการฝึกอบรม

  รับชม