หน้าแรก / ผลงานฝึกอบรมของเรา : Our Portfolio and Gallery

ผลงานฝึกอบรมของเรา : Our Portfolio and Gallery

ขอขอบคุณลูกค้าทุกบริษัท,องค์กร ที่ไว้วางใจให้เอ็นเทรนนิ่งได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาบุคลากรของท่าน สถาบันเอ็นเทรนนิ่ง ครบเครื่องเรื่องศาสตร์ในการฝึกอบรม และการพัฒนาบุคลากรอย่างยั่งยืน
ด้วยประสบการณ์การฝึกอบรมมากกว่า 10 ปี เราจึงมั่นใจว่า...หลังการอบรมผู้เรียนจะต้อง "เกิดการเปลี่ยนแปลง"

ตัวอย่างผลงานฝึกอบรมหน้าที่   [ 1 ]

เทคนิคการสอนงานสำหรับผู้ควบคุมงานก่อสร้าง

วันนี้กับรุ่นปิดท้ายของกลุ่ม Supervisor ระดับ 1-2 ในหลักสูตร เทคนิคการสอนงานสำหรับผู้ควบคุมงานก่อสร้างบรรยากาศสนุกสนานไปด้วยเคสเหตุการณ์ ตัวอย่างที่เราต่างเข้าอกเข้าใจกันดีด้วยความที่ผมเคยเป็นวิศวกรน้อยจบใหม่และก็มีพี่ๆผู้ควบคุมงานอาวุโสเหล่านี้เป็นครูคนแรกๆ ทำให้เข้าใจความรู้สึกของพี่ๆได้เป็นอย่างดีด้วยประสบการณ์การเป็นผู้สอนแม้ในหมวกวิทยากร แต่เทคนิคการสอนด้วย Teaching - Training - Coaching น่าจะช่วยให้พี่ๆเหล่านี้กลับไปเข้าใจและเลือกใช้แนวทางการสอนเพื่อให้ได้ทั้งใจได้ทั้งงานกันได้มากขึ้นครับรอพบกันอีกครั้งเดือนกันยายนกับกลุ่มวิศวกรโครงการครับ

  29 พ.ค. 2566    23

ทักษะการสอนงานและการสร้างคู่มือการสอนงานอย่างมีประสิทธิผล

วันนี้กลับมาบรรยายที่หลักสูตรนี้อีกครั้งเป็นรุ่นที่สองของลูกค้ารายนี้แต่ผู้เรียนกลุ่มนี้เป็นฝ่าย Mechanic ซึ่งต่างจากรุ่นแรกที่เป็นฝ่าย Civil รวมถึงเป็นรุ่นเก๋าตัวจริงของบริษัทอีกด้วย !!!..แอบกังวลกับการสอนของตัวเองเล็กๆเพราะ ....1.เราไม่ถนัดงาน Mechanic และจะสอนผู้เรียนได้ไหม ??2.ผู้เรียนอายุมากกว่า ปสก.สูงกว่า เขาจะฟังเราไหม ??หลายท่านอาจจะเคยกังวลกับ2ข้อนี้เหมือนผมเมื่อต้องสอนงาน..แต่เมื่อค่อยๆนั่งคิดระหว่างเดินทางมาสอน โค้ชตัวเองด้วยคำถามบางคำถามก็เริ่มคลายความกังวลเมื่อได้คำตอบ1.เราสอนเรื่องอะไร ?? =?เทคนิคการสอนงาน ไม่ใช่เรื่องาน Mechanic2.เราเชี่ยวชาญหรือมีจุดแข็งในเรื่องที่สอนอย่างไร ??=?จุดแข็งของเราคือการโค้ช การฟัง การตั้งคำถามชวนคิด ในเรื่องที่สอน3.เราสอนอย่างไร ??=?เน้นพูดคุยแลกเปลี่ยน สะท้อนสิ่งที่ผู้เรียนทำได้ดีอยู่แล้วจากการถามและฟัง และเสริมเทคนิคการสอนที่ในจุดที่เขาสามารถนำไปทำเพิ่มได้4.เราให้ความสำคัญกับเรื่องอะไรในการสอน ??=?ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เรื่องไหนเขาถนัด เชี่ยวชาญอยู่แล้วก็ไม่ต้องลงรายละเอียดมาก จุดไหนเขาติดก็หยิบมาชวนคุย5.รู้สึกอย่างไรเมื่อต้องสอน ??=?ภูมิใจที่ได้เป็นผู้ถ่ายทอดและมีความสุขที่ได้เห็นผู้เรียนมีเรื่องที่นำไปประยุกต์ใช้ได้แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ..บางครั้งความกังวลเกิดจากเรื่องที่เราโฟกัสและเผลอจินตนาการในทางลบมากเกินไป หากเราลองสลับมาโฟกัสในมุมเชิงบวกก็ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้มากขึ้น และพร้อมลงหน้างานไปเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆได้

  24 พ.ค. 2566    34

ทักษะการสอนงานถ่ายทอดความรู้

"เทคนิคการสอนงานก่อสร้างสำหรับหัวหน้างาน" รุ่น 1 .............................กลับมาพบกับชาวก่อสร้างองค์กรนี้อีกครั้งในรอบสี่ปี รอบนี้ได้เจอพี่ๆหลายท่านที่เคยอบรมกันเมื่อสี่ปีที่แล้ว พี่ๆบางคนจำได้ เข้ามาทักทายกันในส่วนหัวข้อวันนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญเนื่องจากหัวหน้างานกลุ่มนี้มีของ มีปสก. มีองค์ความรู้เกี่ยวกับงานก่อสร้างที่สำคัญ การเรียนรู้เทคนิคถ่ายทอดทั้งอธิบาย พาฝึกปฏิบัติ กระตุ้นให้อยากลงมือทำ จึงมีความสำคัญโชคดีที่ตัวเองมีปสก.ตรงกับกลุ่มผู้เรียน ทำให้เราพูดภาษาเดียวกัน ยกตัวอย่างให้พอมองเห็นภาพได้ และ Roleplay ด้วยเรื่องราวของเขาจริงๆคนก่อสร้างสอนคนก่อสร้างให้ไปสอนคนก่อสร้างต่อได้

  16 พ.ค. 2566    53

สร้างจิตสำนึกแห่งคุณภาพเพื่อองค์กรเติบโตยั่งยืน

ฐานกาย & ฐานคิด...ได้กลับมารวมพลังกันอีกครั้งในหลักสูตร"สร้างจิตสำนึกคุณภาพเพื่อองค์กรเติบโตยั่งยืน (Quality Awareness) " ..ผมกับโค้ชกังฟู นธชญ พุ่มพฤกษี มีโอกาสสอนร่วมกันปีละ 2-3 หลักสูตรต่อเนื่องมาประมาณ 5-6 ปีแล้วโดยเราสองคนมีสไตล์การสอนที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก...........โค้ชกังฟูจะเป็นแนวเกม & กิจกรรม เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการตื่นตัว ใช้พลังและความคิดมาทำกิจกรรมตามกติกาที่ออกแบบ มีทั้งแบบแข่งขันและร่วมมือ จึงทำให้ผู้เข้าอบรมต้องใช้ทั้งทักษะการคิด การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม การแก้ปัญหาตลอดกิจกรรม ก่อนปิดท้ายแต่ละกิจกรรมด้วนการถอดบทเรียนร่วมกัน..........ส่วนสไตล์ของผมจะเป็นแนวชวนคิด ให้ความรู้ ยกตัวอย่าง ตั้งคำถาม แชร์มุมมอง แล้วใช้ Group Coach ให้เกิดการตระหนักรู้แบบกลุ่มกิจกรรมที่ผมใช้จึงเป็นพวก Workshop แบบ Brainstorm ด้วยเครื่องมือที่สอน รวมถึงการ Role Playing..........แต่เราสองคนก็จะมีการพูดคุยก่อนเริ่มคลาสและระหว่างคลาสเสมอเพื่อวางลำดับเนื้อหา กิจกรรม ระยะเวลา และที่สำคัญคือ .... "จุดเชื่อมต่อ" "จุดเชื่อมต่อ" คือ ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้บรรยากาศการเรียนรู้จากเราสองคนตั้งแต่เริ่มจนจบคลาสเกิดความต่อเนื่องธรรมชาติของผู้เรียนเมื่อทำกิจกรรมหรือเกม พลังงานภายใน(ความสนุก ความตื่นตัว อารมณ์ร่วม) จะขึ้นสูงมาก เกิดความกระตือรือล้น (Active) จากการสังเกต โค้ชกังฟูจึงต้องใช้น้ำเสียง ท่าทางที่ค่อนข้างทรงพลัง .แต่หากเป็นการนั่งฟัง พูดคุย ถาม-ตอบ พลังงานภายในจะไม่สูง วิทยากร&โค้ชอย่างผมจึงต้องใช้สมาธิในการฟังเพื่อจับเบาะแสที่เป็นตัวตนภายในมาพูดคุยเพื่อให้ผู้เรียนรู้สึกว่ากำลังฟังเรื่องของตัวเองทำให้เกิดอารมณ์ร่วมไปกับคลาสได้ บรรยากาศคลาสของผมจึงค่อนข้างเงียบสลับกับเสียงหัวเราะตามจังหวะ............."จุดเชื่อมต่อ" ของสองคนสองสไตล์จึงอยู่ที่ เรื่องราวต่างๆที่ตัวผู้เรียนรู้สึกเป็นเจ้าของ เป็นเรื่องของเขา ผ่านคีย์เวิร์ดสำคัญของหลักสูตรที่ใช้การเน้นย้ำและเชื่อมโยงกันอย่างหลักสูตรนี้ เราสองคนสร้างความเชื่อมโยงกันด้วยคำสำคัญต่างๆเช่น- ความหมายของ"คุณภาพ"- สร้างจิตสำนึกคุณภาพ- หลุมพรางความคิดเกี่ยวกับคุณภาพ- กรอบความคิดคุณภาพ- ปรับปรุงคุณภาพ- แก้ปัญหาด้านคุณภาพ- การวิเคราะห์สาเหตุ- ค้นหาข้อเท็จจริง (5Gen)เป็นต้น..............ถึงวันนี้ต้องบอกว่าการสอนร่วมกันของเราสองคนมีความกลมกล่อมลงตัวค่อนข้างสูงครับองค์กรใดอยากได้การอบรมรูปแบบที่ผู้เรียนได้ความสนุกและยังได้ในเรื่องการปรับเปลี่ยนกรอบความ และมีเทคนิคที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานได้จริงติดต่อได้ที่ #สถาบันฝึกอบรมเอนเทรนนิ่ง ได้เลยครับ

  16 พ.ค. 2566    47

การคิดเชิงวิเคราะห์ด้วย Why - Why Analysis เพื่อการแก้ปัญหา

"การคิดเชิงวิเคราะห์ด้วย Why - Why Analysis"การจะใช้ Why - Why Analysis ให้เกิดประสิทธิภาพต้องอาศัยกรอบความคิด 2 อย่างด้วยกัน 1.กรอบความคิดของการวิเคราะห์ การค้นหาข้อเท็จจริง(Fact) มากกว่าจะใช้ข้อคิดเห็น (Opinion) ซึ่งเป็นมุมมองของเราเพียงด้านเดียว เพราะหากเราเชื่อว่ามุมมอง ประสบการณ์เราถูกต้องที่สุด เราจะไม่ให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริงอื่นเกี่ยวกับปัญหาที่ซ่อนอยู่ และอาจส่งผลต่อการตั้งคำถาม "Why" ด้วยเช่นกัน.............................2.กรอบความคิดของการถามและฟังต่อจากการการมีกรอบความคิดของการวิเคราะห์แล้ว การตั้งคำถามด้วย Curious จะช่วยให้เราเปิดใจรับฟังคำตอบเพื่อเข้าใจและค้นหาข้อเท็จจริงเชิงลึกด้วยการคำถามต่อๆไปแต่หากเราเผลอมีธงในใจหรือข้อคิดเห็นของเรา อาจส่งผลต่อคำถามที่อาจเป็นเชิงตำหนิ ตัดสิน หรือแนะนำโดยไม่ตั้งใจ รวมถึงอารมณ์ที่อาจเกิดขึ้นขณะฟังคำตอบ จนหลงลืมประเด็นสำคัญได้

  16 พ.ค. 2566    45

การโค้ชเพื่อพิชิตเป้าหมายร่วมกันเป็นทีม

#อยากฝึกโค้ชต้องเริ่มจากMindsetคลาสนี้เป็นคลาสที่ต้องฝึกการโค้ชเชิงปฏิบัติการ (Coaching in Practice) บ่อยมากเพราะการอธิบายหลักการโค้ชเพียงอย่างเดียวผู้เรียนอาจจะไม่เห็นภาพหลักการที่สำคัญของโค้ชหากเรียบเรียงเป็นประโยคประมาณนี้??? โค้ชใช้คำถามเป็นหลัก หลีกเลี่ยงการแนะนำโดยตรงเพราะโค้ชเชื่อว่าโค้ชชี่มีศักยภาพซ่อนอยู่อีกมาก โค้ชจึงเน้นการดึงศักยภาพมากกว่าการให้หรือเติม โค้ชจึงต้องใช้ทักษะการฟังเชิงลึก(จับถูก) เพื่อค้นหาจุดแข็งหรือคุณค่าที่ซ่อนอยู่แล้วสะท้อนให้โค้ชชี่มองเห็นตัวเองด้วยคำถามสร้างการตระหนักรู้ในตัวเอง ???ดังนั้นในการสาธิตการโค้ชจึงต้องถอดบทเรียนให้ผู้เรียนมองเห็นความแตกต่างระหว่าง- เติม(แนะนำ) กับ ดึง(คิดด้วยตัวเอง)- จับผิด(จุดด้อย) กับ จับถูก(จุดเด่น)- ชี้ให้เห็น(reflect) กับ ตระหนักรู้ (awareness) - ไม่เชื่อมั่น(ย้ำคิดย้ำทำ) กับ ไว้วางใจ(ให้อิสระ)- ผลลัพธ์(result) กับ การเปลี่ยนแปลง(change)- กดดัน(force) กับ จูงใจ(encourage)- เป้าหมายเรา กับ ความต้องการของเขา การใช้คำคู่ชวนคิดสำหรับการทำ Group Coach ในวันนี้ค่อนข้างท้าทายเพราะต้องจับประเด็น common ที่ยังเป็น mindset เดิมภายใต้การโค้ชของผู้เรียน เพื่อให้เขาเป็นผู้มองเห็นและยอมรับกรอบความคิดของเขาการหยิบเคสของเขามาทำเซสชั่น roleplay อีกครั้งโดยยึดหลักการโค้ชที่ได้สอนไปแล้ว ทำให้เขาได้เรียนรู้และมีแนวทางนำไปต่อยอดด้วยตัวเองต่อไปได้

  16 พ.ค. 2566    43

Design Thinking

  11 พ.ค. 2566    47

เทคนิกการสอนงาน OJT และการสร้างคู่มือสอนงาน

วันนี้กับภารกิจติดอาวุธให้หัวหน้างานด้านการสอนงาน OJT บทบาทหนึ่งที่สำคัญของหัวหน้างานในทุกยุคสมัยก็คือการพัฒนาทีมงานให้มีความสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และเกิดความสูญเสียให้น้อยที่สุดการสอนงาน ณ จุดปฏิบัติงานจึงต้องมุ่งเน้นให้เกิดความเข้าใจและความมั่นใจ(เต็มใจ)หัวหน้างานในฐานะผู้สอนงานจึงต้องใช้หลายบทบาทผสมผสานกันตามลักษณะอาการและสถานการณ์ พนักงานมาใหม่ มุ่งเน้นให้มีความรู้ ความเข้าใจ พนักงานทำงานล่าช้า ผิดพลาด พัฒนาทักษะให้เกิดความคล่องแคล่ว พนักงานไม่มุ่งมั่น ไม่เชื่อมั่น สร้างกรอบความคิดเชิงบวกและเชิงรุก พนักงานติดปัญหา ร่วมคิดหาแนวทางแก้ไขให้นำไปปฏิบัติการจัดทำคู่มือสอนงานเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้การสอนงานมีรูปแบบ มาตรฐาน และยังเป็นการทำ KM ให้กับองค์กรด้วยเช่นกันครับ

  8 พ.ค. 2566    58

ผู้นำ 3 เก่ง พัฒนาคน สร้างผลงาน

วันก่อนไปบรรยายหลักสูตร ผู้นำ 3 เก่ง ให้กับกลุ่มผู้จัดการจำนวน 35 ท่านหลักสูตรนี้ครอบคลุมการพัฒนาผู้นำให้มีความเก่ง 3 ด้านด้วยกันคือ#เก่งคิด ผู้บริหารหลายคนยังติดกรอบความคิดของการเป็นนักแก้ปัญหา ทำให้มองเฉพาะเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วพยายามคิดหาว่าจะแก้ไขอย่างไร ผู้นำที่เก่งคิดจะมองที่เป้าหมายและประเมินอุปสรรคที่ทำให้ยังไม่ถึงเป้าเพื่อใช้คิดหากลยุทธ์ที่จะไปให้ถึง ส่วนปัญหาหน้างานต้องมอบหมายให้ทีมงานเป็นผู้แก้ไข (โดยถอยมาเป็นผู้สนับสนุนและสอนงานแทน)#เก่งคนคนมีความหลากหลาย มีความแตกต่าง มีความคาดหวังของตัวเอง การทำงานร่วมกับคนอื่นทั้งระดับบน ระดับเดียวกัน และระดับล่าง ต้องใช้ทักษะเรื่องคนผู้นำที่เก่งคนจะค้นหาความต้องการของผู้อื่นเพื่อสื่อสารให้เกิดผลลัพธ์และความสัมพันธ์ที่ดี ใช้การสื่อสารจูงใจแทนการอ้างสิทธิ ตำแหน่งเพื่อให้ผู้อื่นยอมทำตาม#เก่งโค้ชปัญหาส่วนมากที่ผู้บริหารพบเจอคือ ทีมงานยังมีกรอบความคิดแบบยึดติด (Fix Mindset) เห็นแต่ข้อจำกัด บางครั้งก็ขาดความมั่นใจ บางครั้งก็ยึดถือความเชื่อ ประสบการณ์ตัวเอง ทำให้ไม่อยากพัฒนาผู้นำที่เก่งโค้ชจะใช้ทักษะของโค้ชเพื่อพัฒนาคนตามจุดแข็งของเขา ทำให้เขามีแนวทางการพัฒนาในแนวทางที่เหมาะกับตัวเอง รวมถึงการสร้างเส้นทางการเติบโตเพื่อให้เป็น successor ต่อไปได้..เป็นอีกคลาสที่ต้องใช้การ role play บ่อยมาก เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านสถานการณ์สมมติ(ที่เป็นของเขาเอง) กรอบความคิดของผู้นำสอนได้อยาก ต้องทำฝห้เขาเป็นผู้ตระหนักรู้ด้วยตัวเอง การเปลี่ยนแปลงจึงจะยั่งยืน

  8 พ.ค. 2566    56

ทักษะการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ

วันนี้กลับมาพบกันในหลักสูตรที่สองของโปรแกรมปีนี้ ทักษะการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพโครงการก่อสร้างเป็นลักษณะงานที่มีกิจกรรมมากเป็นพิเศษมีทั้งงานหลัก งานรอง งานร้องขอ งานเก็บกวาด งานเตรียมการ งานแก้ไขโดยทั่วไปแล้วกิจกรรมในงานก่อสร้างเป็นงานที่ควรทำ ( Should be ) เพื่อให้ได้ตามเป็นหมาย Time - Cost - Quality เช่น- Planning- Preparation- Inspection- Quality Control- Safety- Monitoring- Meeting - Procurement- Payment- Cleaning & Clearing- Improvment- Training- Maintenanceแต่ทุกงานก็จะมีเวลาที่เหมาะสมที่ควรทำเช่น Planning , Preparation , Safety ควรทำก่อนเริ่มงานจริงให้แล้วเสร็จ Quality Control , Inspection ควรทำทั้งก่อนเริ่ม ระหว่าง และ หลังจบงานTraining , Improvment ทำได้ตลอดเมื่องานเริ่มคืบหน้า Cleaning & Clearing ควรทำก่อนจบงานในแต่ละวัน แต่หลายครั้งที่เราไม่ได้ทำงานเหล่านี้ในเวลาที่เหมาะสม หลายๆอย่างจึงเปลี่ยนเป็นเรื่องวิกฤต ( Critical Task ) เช่น- เกิด Accident จากความบกพร่องเรื่องSafety- เกิด Defectvจากการไม่ทำงานตาม QC process- ต้อง Re-Work เพราะแบบก่อสร้างไม่ถูกต้อง- วิ่งหา Material เพราะไม่ Planning ล่วงหน้า- หยุดงานเพื่อ Clear พื้นที่เพราะไม่มีการจัดระเบียบจากงานที่ควรทำในเวลาที่ไม่ต้องเร่งรีบ กลายเป็นงานที่ต้องทำโดยมีเวลาจำกัด เป็นแบบนี้บ่อยๆจนกลายเป็นความรู้สึกว่ามีแต่งานด่วน งานเร่ง งานร้อน การตระหนักรู้ (Awareness) ถึงความสำคัญของงานที่ควรทำ โดยหลีกเลี่ยงงานที่อยากทำ (Would be) แต่ไม่สำคัญ เพียงเพราะมันง่ายกว่า สบายใจกว่า ณ ตอนนั้น แต่ต้องกลับมาเหนื่อย มาเครียดแบบไฟลนก้นกันภายหลังอยู่ดี เช่น- ไม่กล้าปฏิเสธหรือต่อรองเวลา เลยแทรกทำให้ก่อนจนทำให้งานสำคัญที่ทำอยู่ก่อนกลายเป็นล่าช้า- ไม่ยึดมั่นในจุดยืนแล้วปล่อยผ่าน สุดท้ายต้องกลับมาแก้ไขอยู่ดีทักษะการบริหารเวลาจึงไม่ใช่แค่บริหารงาน ... แต่ยังรวมถึงการบริหารคนด้วยเช่นกันจาก Workshop จัดลำดับความสำคัญของงานทำให้มองเห็นว่า - เราหลีกเลี่ยงงานแทรกได้ด้วยการสื่อสารล่วงหน้าและแจ้งให้ทราบเป็นระยะ- เราหลีกเลี่ยงงานวิกฤตได้ด้วยการวางแผน ทำงานล่วงหน้า และเตรียมการให้พร้อม- งานทั่วไปไม่ใช่ไม่สำคัญแต่ต้องจัดเวลาทำให้เหมาะสม- ถ้าบริหารได้ดี งานส่วนมากจะไม่ค่อยเร่งด่วนเพราะมีตารางชัดเจน- เราควรใช้เวลาส่วนใหญ่ของการทำงานไปกับงานที่มีตารางเวลาชัดเจน เป็นอีกคลาสที่สนุกในการสอน ทั้งยกตัวอย่าง หยิบเคสมาชวนคิดหา Solution กันตลอดทั้งวันขอบคุณผู้เข้าอบรมทุกคนมากครับ

  30 มี.ค. 2566    237

สร้างจิตสำนึกคุณภาพ (Quality Mindset Awareness)

วันที่ 23-24 มีนาคมมีโอกาสไปบรรยายหลักสูตร สร้างจิตสำนึกคุณภาพ (Quality Mindset Awareness) สำหรับสายงาน IT ให้กับน้องๆชาวพีทีทีดิจิตอล ที่จ.ระยองบรรยากาศความสนุกไม่แพ้รุ่นที่จัดที่กทม. ทั้งการแลกเปลี่ยนแนวคิด การนำเสนอ การถาม-ตอบประเด็นสงสัยต่างๆเป็นสองวันที่ช่วนกันแกะ ช่วยกันถอด Mindset กันสนุกสนานโปรแกรมนี้ทำให้ผมได้ตระหนักถึงกระบวนการสร้างกรอบความคิด (Mindset) ในเรื่องต่างๆมากขึ้นเราต่างมี Mindset ที่เป็นความเชื่อ ประสบการณ์ กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่ซึ่งมันฝังจนกลายเป็นโหมด Auto Pilot ในการตัดสินใจเรื่องนั้นๆ การจะปรับเปลี่ยน Mindset ที่ฝังแน่นไปแล้วนั้นต้องเริ่มที่การสร้างการตระหนักรู้ (Awareness) ถึงพฤติกรรมต่างๆเพื่อค้นหาที่มา สาเหตุหรือปัจจัยที่ทำให้เราตัดสินใจด้วย Auto Pilot แบบนั้น รวมถึง Trigger ที่มากระตุ้น เพื่อเข้าใจรูปแบบพฤติกรรมนั้นๆยกตัวอย่างเช่นหากเราขับรถแล้วพบว่าสัญญาณไฟข้างหน้ากำลังเป็นไฟเหลือง ซึ่งตามหลักสากลแล้วเราต้องทำการชะลอเพื่อเตรียมหยุดรถแต่หลายคนมักจะใช้สัญญาณไฟเหลืองเป็นตัวกระตุ้นให้เร่งเหยียบคนเร่งผ่านแยกนั้นไปให้ทันเพื่อจะได้ไม่ต้องเปลืองเวลาและพลังงานในการจอดรออีกหนึ่งรอบไฟแดงโดยที่ความเชื่อเราตอนนั้นคือ คงไม่มีรถอีกฝั่งที่รีบออกก่อนสัญญาณของเขาแล้วมาชนเรานั่นคือเรากำลังมองในมุมของ "Best Case Scenario" จึงเลือก Take riskเราให้ความสำคัญที่ Time (เวลา) > Safety (ความปลอดภัย) ซึ่ง Worst Case Scenario ของกรณีนี้คือ มีรถจากอีกฝั่งรีบออกก่อนสัญญาณเขียวของเราแล้วมาชนเรา !!!เพียงแต่เราอาจจะโชคดีที่ Worst case มันยังไม่เคยเกิดขึ้น แต่หากเราไม่อยาก Take risk นี้อีกแล้ว เพราะคิดถึงผลกระทบที่อาจเกิดตามมาหากเจอ Worst case นั่นคือ เรากำลังให้ความสำคัญที่ Safety > Time โดยเรากำลังสร้างโปรแกรมสมองว่า "เมื่อเจอไฟเหลืองฉันจะชะลอ" ก็เท่ากับเรากำลังโปรแกรมโหมด Auto Pilot ใหม่กระบวนการนี้เราน่าจะพอเรียกว่า สร้างจิตสำนึกความปลอดภัย ( Safety Awareness ) การสร้างจิตสำนึกคุณภาพ ( Quality Awareness ) ก็มีหลักการเดียวกันคือ เราต้องมองทั้ง Best case และ Worst case ของการที่เราเลือก Time หรือ Cost ก่อน Quality เพื่อประเมินว่าผลกระทบมันแตกต่างกันขนาดไหน แล้วหาจุดที่ทำให้เราตัดสินใจเลือก Quality มาเป็นอีกพารามิเตอร์ในการตัดสินใจเพื่อให้มี Solution ที่ดีที่สุด ลด bug ลด Issued หรือ Incedent ที่ตามมา แม้อาจจะมีข้อจำกัดทั้งด้านราคาและเวลา รวมถึงการให้ความสำคัญกับการเก็บ Requirement ให้ใกล้เคียงกับ insight ของลูกค้ามากที่สุดเพื่อจะได้ไม่ต้องกลับมาแก้ไขงานหลังจาก Go live แล้ว

  30 มี.ค. 2566    105

Train the Internal Trainer 2D

อีกหนึ่งโปรแกรมที่ได้ร่วมพัฒนา Internal Trainer ให้กับองค์กรครับวันนี้เป็นวันแรกโดยมุ่งเน้นที่ผู้เข้าอบรมทุกท่านไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ มือเก๋า ต้องมี Signature Course ที่เชี่ยวชาญของตัวเองและต่อยอดไปถึงการทำเนื้อหา (Content) ที่ครอบคลุมทั้ง Knowledge - Skill - Mindset ความท้าทายของการเปลี่ยนผู้ปฏิบัติงานที่เชี่ยวชาญให้เป็นวิทยากรถือไมค์ ไฟส่องหน้าคือ "กล้าสอนและสอนเป็น"กระบวนการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว ทางสถาบันเอนเทรนนิ่งอาศัยหลักทฤษฎี 10:20:70 (Learning Model) โดยออกแบบโปรแกรมให้เป็น Blended Learning โปรแกรมนี้จึงนอกเหนือจากรูปแบบ Training & Group Coaching ในรูปแบบ Classroom แล้ว ยังมีการเรียนรู้และฝึกฝนรูปแบบอื่นๆประกอบเช่น- เตรียมความพร้อมและพื้นที่ทบทวนด้วย VDO Online- Assignment & Follow Up ด้วย Learning Management Platform (LMP)- บทบาทของวิทยากรในฐานะ Coach-Mentor-Consult ทั้งแบบ Offline และ Onlineจบคลาสวันแรกต้องเตรียมตัวตรวจการบ้านการจัดทำหลักสูตรและออกแบบสไลด์ของผู้เข้าอบรมก่อนพบกันวันที่สองเพื่อเตรียม "สอบสอน" กันต่อครับ

  30 มี.ค. 2566    95

การพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานภายในองค์กร สู่ความเป็นเลิศ

ได้ไปสอน หลักสูตร การพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานภายในองค์กร สู่ความเป็นเลิศ ในองค์กรที่อบอุ่น เต็มไปด้วยพลัง ของคนรุ่นใหม่ ทุกคนมีเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจน มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติงานในส่วนของตนเองที่รับผิดชอบให้ประสบความสำเร็จ บางครั้งอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้ง ส่วนหนึ่งมาจากการเป็นคนรุ่นใหม่ ที่ทำงานเร็ว มุ่งผลลัพธ์ เชื่อมั่นในสิ่งที่คิดและปฏิบัติมีการใช้กระบวนการ T&GC เริ่มจากให้ผู้เรียนซึมซับความสุข รอยยิ้ม เสียงหัวเราะจากภาพกิจกรรมปีใหม่ กิจกรรมต่างๆ ที่ได้ทำร่วมกันว่าเราสามารถนำความรู้สึก ความคิดดีดีนั้นมาใช้ในการทำงานร่วมกันได้อย่างไร ใช้เนื้อหาหลักการต่างๆ ทั้งกรอบความคิด (Mindset) คุณลักษณะของบุคคลในแต่ละแบบ มาค้นหาสิ่งที่ตนเองติดอยู่ ใช้การตระหนักรู้ในตัวเองและสร้างความเข้าใจในผู้อื่น สร้างการเปลี่ยนแปลง ปลดล็อคข้อจำกัดในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ประยุกต์ใช้ทักษะที่สำคัญของตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งทักษะการสื่อสารสร้างสัมพันธ์ เทคนิคการฟังความต้องการของเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า ทีมงาน เข้าใจคนอื่นมากขึ้น ใช้ทักษะการทำงานเชิงรุก ทำในสิ่งที่ท้าทาย และทักษะอื่นๆกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ การฝึกฝนด้วยกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความคิดใหม่ การทำงานแบบใหม่ผู้เรียนบอกว่าชอบกิจกรรมที่มีการแบ่งกลุ่มเป็นแต่ละหน่วยงาน ระดมสมองกันเพื่อมาแชร์และรับฟังกัน หัวข้อที่แต่ละกลุ่มมานำเสนอ เช่น ลักษณะงานที่ทำอยู่ สิ่งที่ต้องการจากหน่วยงานอื่น (ระบุให้ชัดเจนว่าต้องการอะไร จากหน่วยงานไหน) สิ่งที่จะให้กับหน่วยงานอื่น (ระบุให้ชัดเจนว่าสิ่งที่จะให้คืออะไร ให้กับหน่วยงานไหน) ทำให้ได้เรียนรู้ลักษณะงานของคนอื่น ทำให้เข้าใจกันมากขึ้น รับรู้ถึงสิ่งที่เขาติดอยู่และต้องการการสนับสนุนจากเรา รู้ว่ามีบางอย่างที่เราสามารถขอการสนับสนุนด้วยความเต็มใจจากหน่วยงานอื่นๆได้ สร้างความรู้สึกที่ดีในการทำงานร่วมกันขอบคุณการต้อนรับที่อบอุ่นและช่อดอกไม้สวยๆจากองค์กรครับ

  30 มี.ค. 2566    104

การสื่อสารและการจูงใจ เพื่อลดข้อขัดแย้ง

หลักสูตร การสื่อสารและการจูงใจ เพื่อลดข้อขัดแย้งพบว่ามาจากหลายสาเหตุ เช่น ไม่กล้าถามน้องว่าเข้าใจหรือเปล่า ไม่กล้าพูดต่อหน้าคนอื่น ไม่รู้จะทำอย่างไรกับหัวหน้าที่สื่อสารไม่เข้าใจ ไม่รู้จะจัดการกับทีมงานที่รู้งานอยู่คนเดียว ไม่ยอมสอนคนอื่นได้อย่างไร เป็นต้นการสื่อสารเป็นสิ่งที่ทุกคนปฏิบัตกันอยู่เป็นประจำ คนที่เรารู้สึกดีกับเขา เข้าใจเขา เราก็สามารถสื่อสารกับเขาได้ดี คนที่เรารู้สึกไม่ชอบเขา รู้สึกว่าเขาไม่ดีกับเรา เราก็ไม่อยากสื่อสารด้วยแสดงว่าหากเราเรียนรู้ที่จะเข้าใจคนอื่น รู้ว่าเขาเป็นแบบนั้น เพราะอะไร เราก็สามารถปรับเปลี่ยนการสื่อสารของเราให้เหมาะสมกับเขาได้บางครั้งที่เราสื่อสารกับคนอื่นเพื่อให้เขาทำตามสิ่งที่เราบอก เราจะเตรียมตัวเพื่อมองหาสิ่งที่เขาต้องการ ประโยชน์ที่เขาอยากได้ และนำสิ่งนั้นไปสื่อสารกับเขา และจูงใจให้เขาคล้อยตามความขัดแย้งกับคนอื่นส่วนใหญ่เกิดจากความคิดของเรา คนที่เราสนิทและรู้จักเขาดี ก็มีโอกาสที่จะขัดแย้งกันได้ แต่จะลดลงได้รวดเร็ว หากเราเปลี่ยนแปลงความคิดตัวเองต่อสิ่งต่างๆที่มากระทบโดยใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ผลลัพธ์ที่ได้รับก็จะดีขึ้นการใช้หลักการและเทคนิคต่างๆในการสื่อสาร การจูงใจ และเรียนรู้ความขัดแย้ง ตามเนื้อหา และประยุกต์ใช้ในการทำกิจกรรมร่วมกันในคลาส ช่วยให้เราสามารถปรับวิธีการสื่อสารของเราในการทำงานได้อย่างเหมาะสม และส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้นบรรลุผลสำเร็จมากขึ้นหลายคนรู้สึกดี ได้พูดคุย ได้ความรู้ ได้ฝึกฝน ได้ทดลองปฏิบัติ มีอิสระในการเลือกวิธีการของตัวเอง คาดหวังว่าทุกคนจะได้มีแนวทางที่เหมาะสมของตัวเองในการสื่อสาร จูงใจ และลดความขัดแย้งในการทำงานให้น้อยลง

  30 มี.ค. 2566    133

Quality Awareness Mindset

วันนี้มาบรรยายหลักสูตร Quality Awareness Mindset ให้กับน้องๆกลุ่ม Tech & Digitalส่วนมากจะบรรยายหลักสูตรนี้ให้กับองค์กรที่เป็น Physical Product ที่สามารถตรวจวัด สัมผัส เช็ค ชั่ง ได้แต่ลูกค้าวันนี้เป็น Digital Product ซึ่งมีคุณลักษณะแตกต่างจากประเภทแรกหลายเรื่อง โดยเฉพาะ "Process & Deliver"ดังนั้นการเชื่อมโยงหลักคิดเข้าไปสู่รูปแบบงานของเขาทั้ง Process , Product , Issued , Requirement , Deliver ต่างๆ เพื่อให้เห็นที่มาของพฤติกรรม ความคิด โดยเชื่อมไปที่จิตใต้สำนึกของแต่ละคน ทำให้เกิดการตระหนักรู้และนำไปสู่การสร้างจิตสำนึกคุณภาพได้หลายๆ Keywords & Key Message ที่ช่วยกระตุ้นจิตสำนึกได้เช่น- การทำไป เอ๊ะไป ... ทำแบบนี้อาจเกิด bugs อะไร , meet requirment ไหม- การตัดสินใจโดยเอา parameter ด้าน "Q,quality" มาอยู่ในสมการการหา solution เมื่อเจออุปสรรค หรือ งานเพิ่ม งานเปลี่ยนแปลงต่างๆ- การให้ความสำคัญที่ความต้องการ ความพึงพอใจลูกค้า มากว่าข้อจำกัดที่มีอยู่เป็นอีกคลาสที่สนุกมากๆ ได้ศัพท์ใหม่ๆเยอะเลย

  20 มี.ค. 2566    82

Professional Solution Selling

วันนี้ดีใจมากๆ ได้กลับไปเจอเพื่อนๆพี่ๆน้องๆร่วมอาชีพก่อสร้างอีกแล้วหากได้รับโอกาสให้ไปสอนองค์กรในอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาฯ ผมจะยินดีไปด้วยความเต็มใจและตื่นเต้นทุกครั้ง- ด้วยประสบการณ์ที่คลุกคลีกับช่างแรงงานและหน้างานสิบกว่าปี- ด้วยประสบการณ์ที่อยู่กับเรื่องการพัฒนาคนเกือบสิบปี- ด้วยประสบการณ์ที่ลงไปทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างประมาณสี่ปี- ด้วยประสบการณ์ที่ไปเป็นที่ปรึกษาให้กับเจ้าของโครงการเกือบห้าปี- และด้วยประสบการณ์ที่ได้ทำงานร่วมกับมืออาชีพด้านพัฒนาอสังหาฯกับบริษัทซอฟต์แวร์ก่อสร้างในสองปีหลังทำให้เข้าใจบริบทของคนก่อสร้างที่ถูกเร่งรัดด้วยเงื่อนไขเวลาที่ต้องเร่งส่งมอบแถมยังมีข้อจำกัดด้านงบประมาณที่สวนทางกับความต้องการด้านคุณภาพวันนี้จึงไม่ใช่การมาบอกว่า "ควรทำอะไร" หรือ "ไม่ควรทำอะไร"แต่เป็นการมาชวนพูดคุยให้ตระหนักถึงผลลัพธ์ว่า "ทำแบบไหนจะเกิดอะไร" และเข้าใจว่า "ที่ทำแบบนี้มาจากวิธีคิดอย่างไร"การปรับเปลี่ยนผลลัพธ์ต้องเริ่มจากกระดุมเม็ดแรก ซึ่งก็คือ "วิธีคิด(Mindset)" และ "จิตสำนึก(Awareness)"ไม่ว่าจะเป็น - Quality Mindset- Safety Awareness- Ownership Mindset- Sense of Urgencyวันนี้นายช่างทุกท่านอาจจะพอได้ How to บ้างตามวัตถุประสงค์ของผู้บริหารแต่ของแถมที่ได้ไปคือ ต้องทำให้ Quality เป็น Priority ในระดับเดียวกับ Cost & Time การทำงานตามมาตรฐานดีกว่าต้องมาแก้งานภายหลัง ซึ่งอาจจะยากกว่ามาก เพราะลูกค้าเข้าอยู่แล้วการรับประกันแบบ Life-time Warranty เพื่อก้าวข้ามวิธีคิดที่ว่า "ทำให้มันเสร็จๆไปก่อน" ไปสู่การ "ทำให้ดีแต่แรก"ขอบคุณทุกๆท่านที่ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตลอดทั้งเซสชั่นครับ

  20 มี.ค. 2566    89

สร้างจิตสำนึกรับผิดชอบและกรอบความคิดความเป็นเจ้าของ

วันนี้เดินทางมาบรรยายแถวสมุทรสาครในหัวข้อ สร้างจิตสำนึกรับผิดชอบและกรอบความคิดความเป็นเจ้าของจิตสำนึกกับกรอบความคิด"เป็นเรื่องที่จับต้องยาก ประเมินโดยตรงไม่ได้ และไม่ได้มีเทคนิคเฉพาะที่จะไปทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้โดยตรงการทำให้เกิดการเปลี่ยนโดยอาศัยปัจจัยจากภายนอกเช่น การบอก สั่ง แนะนำ บังคับ กดดัน หรือ แม้กระทั่งการจูงใจด้วย benefit ต่างๆ อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนได้การเปลี่ยนแปลงที่ภายในตัวบุคคลโดยทำให้เขาเกิดการตระหนักรู้ด้วยตัวเอง (Self Awareness) ผ่านการชวนคิด การทำให้เขามองเห็นตัวเอง ตระหนักถึงพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าขาดจิตสำนึกรับผิดชอบอย่างไร และอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง มักจะให้ผลที่ยั่งยืนกว่า เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงระดับจิตใต้สำนึกการบรรยายหบักสูตรนี้ผมจึงต้องอาศัยทักษะโค้ชมากเป็นพิเศษ ทั้งการตั้งคำถามชวนคิด การฟังเชิงลึก&เชิงรุก การให้ Positive Feddback การเปลี่ยนแปลงหลังการอบรมเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของวิทยากร&โค้ชของผมเช่นกันครับ

  20 มี.ค. 2566    75

Effective OJT Technique and Guide Book

มาอยู่กับกลุ่มผู้สอนงาน (แบบประจำและไม่ประจำ) สองวันในการร่วมปั้นผู้สอนงานมืออาชีพกันครับความท้าทายของหัวหน้างานส่วนใหญ่คือ เขาสามารถทำงานได้ดีแต่พอต้องสอนให้คนอื่นทำงานได้ดีกลับรู้สึกกังวล เพราะ...- ไม่เชื่อว่าตัวเองจะสอนคนอื่นได้ (ความเชื่อมั่น)- ไม่รู้ว่าตัวเองเชี่ยวชาญอะไร (จุดแข็ง)- ไม่รู้ว่าจะต้องสอนอะไรบ้าง (หลักสูตร)- บรรยากาศการสอนไม่ดึงดูด (การกระตุ้น)- สอนแล้วลูกน้องก็ยังทำผิดอยู่ (เทคนิค)- สอนเสร็จแล้วต้องทำอะไรต่อ (การติดตาม)- ตอบคำถามคนเรียนไม่ได้ (ประสบการณ์)ทำให้สองวันนี้ต้องใช้ทั้งบทบาทโค้ช พี่เลี้ยง ที่ปรึกษา ทำให้หัวหน้างานทุกท่านเปลี่ยน Tacit Knowledge ที่มีเป็นหัวข้อหลักสูตรรวมถึงการให้ feedback ในการทดสอบสอนเพื่อนำไปต่อยอดและพัฒนาเพิ่มเติมต่อได้สอนคนเรียน และ สอนให้คนเรียนไปสอนคนอื่นต่อ สองเลเยอร์ที่ต้องแม่นและแยกแยะให้ชัดเจนท้าทายดีครับ

  1 มี.ค. 2566    103

Project Management for Cnstruction

วันก่อนได้โอกาสไปบรรยายหลักสูตร การบริหารโครงการก่อสร้าง - Project Management for Cnstructionลูกค้าเป็นบริษัทรับเหมาด้านงานระบบจากประเทศญี่ปุ่นประเด็นที่ผู้เข้าอบรมแลกเปลี่ยนในคลาสส่วนมากจะเป็นปัญหาที่เจอเสียเป็นส่วนใหญ่ เช่น- เจ้าของงานขอเปลี่ยนแปลงแบบ- วัสดุเข้าหน้างานไม่ทันตามแผนและไม่ตรงสเปค- ปัญหาจากงานโครงสร้างที่ไม่ตรงตามแบบ- หน้างานไม่มีพื้นที่ stock materials - งานไม่เสร็จตามแผนเพราะปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้เช่น ฝนตก คนงานไม่พอ และอีกมากมายปัญหาหลายๆเคสผมไม่ได้ตอบตรงๆ แต่จะใช้การอธิบายทักษะและเครื่องมือต่างๆและชวนให้เขาคิดหา Solution ของเขาเองบนสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ปัญหาในโครงการแบ่งเป็นสองประเภทคือ ปัญหาเชิงเทคนิค ( Technical Problem ) กับ ปัญหาเชิงการจัดการ ( Management Problem )ปัญหาแต่ละประเภทมีแนวทางจัดการที่แตกต่างกัน ปัญหาเชิงเทคนิค ต้องใช้ความรู้ในตัวงานเข้าไปวิเคราะห์และหาแนวทางแก้ไข จากนั้นต้องมากำหนดแนวทางปรับปรุงหรือป้องกันปัญหาเชิงการจัดการ ต้องใช้ทักษะด้านการจัดการเข้าไปแก้ เช่น- การคาดการณ์ความเสี่ยงล่วงหน้าแล้วกำหนดแนวทางรับมือ ทั้งปัจขัยที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้- การวางแผนงานที่ครอบคลุมทั้ง ระยะยาว ( Project Plan ) ระยะกลาง ( Monitoring Plan ) ระยะสั้น ( To do list )- Manpower Management ที่ครอบคลุมทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ- Material Management อย่างเป็นกระบวนการ Order - Delivery - Stock - Usage- การ Monitor ความคืบหน้างานเทียบแผนทั้งมิติ Time - Cost - Quality- การตัดสินใจที่ผลลัพธ์คุ้มค่าที่สุดโดยมองครบทั้ง T-C-Q- Quality Management ทั้ง QC - QA - QI- Time & Prioritization เพื่อดูว่าตอนนี้ต้องโฟกัสอะไร- Manage with Leadership เพื่อจูงใจ และ พัฒนาทีมเป็นช่วงเวลาที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน แม้ผมจะมีแบ๊คกราวด์เป็นงาน Civil ซึ่งถือเป็นฝ่ายโจทก์ของงานระบบ แต่การตอบคำถามโดยต้องแยกหมวก (อดีต)ผู้ควบคุม กับ นักพัฒนาคน ก็ถือเป็นความแตกต่างที่ท้าทายเหมือนกันครับ

  1 มี.ค. 2566    118

ครบเครื่องทักษะการเป็นหัวหน้างานคุณภาพ

ครบเครื่องทักษะการเป็นหัวหน้างานคุณภาพบริษัท เอ็ม อาร์ ไอ จำกัด25 กุมภาพันธ์ 2566ได้รับโอกาสไปร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมกันกับองค์กรดีๆ ที่สถานที่ดีๆ วิวดีๆ วันนี้ตั้งเป้าหมายกับตัวเองไว้ว่าจะกังวลกับสไลด์ให้น้อยลง บอกน้อบลง แนะนำน้อยลง ตั้งใจฟังให้มากขึ้น การสอนจึงเป็นการพุดคุยกัน ถามตอบกัน โดยจะใช้คำถามกับผู้เรียนเป็นหลัก รับฟังอย่างตั้งใจ และใช้คำถามต่อ เพื่อให้ผู้เรียนมองเห็นตัวเอง จากคำตอบของเขาเองเริ่มต้นจากการที่ให้ผู้ร่วมเรียนรู้คิดถึงงานของตัวเองที่ทำอยู่ในแต่ละวัน และค้นหาปัญหาที่พบบ่อยๆ และนำมาพูดคุยกัน ตั้งแต่ต้นจนจบคลาส หลายครั้งผู้เรียนจะบอกถึงเป้าหมายที่ต้องการ เมื่อถามถึงปัญหา จะตอบว่าไม่มี แต่เมื่อผู้เรียนเริ่มคลายความกังวลจากคำถามจะเริ่มคิดตาม และค่อยๆให้คำตอบกับตัวเองมากขึ้น และจะสามารถดึงความสามารถของตัวเองออกมาใช้ จากการสังเกตผู้เรียน มีการได้รับผลลัพธ์ที่หลากหลาย บางคนสามารถนำหลักการไปต่อยอดกับงานของตัวเองที่ทำอยู่ได้เลย บางคนนำไอเดียจากคำตอบเพื่อนไปต่อยอด บางคนยังมีบางอย่างที่ติดอยู่ และจะนำไปทดลองใช้ในงานจริงการเชื่อมั่นในคุณค่าที่ผู้เรียนมีอยู่ ทำให้สามารถอดทนรอผู้เรียนใช้คุณค่าของตัวเขาเองได้ (ปกติ จะเผลอบอกหรือสอนบ่อยๆ) เมื่อเข้าช่วงกิจกรรมกลุ่ม พบว่าทุกคนมีการพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนกัน มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และได้ไอเดียที่มีประโยชน์สำหรับนำไปใช้กับการทำงาน และเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น เพิ่ม QR code รายละเอียดสินค้าในสติกเกอร์ที่แปะบนกล่องแพ็คกิ้ง แทนการใช้กระดาษ (ประหยัดได้ปีละหลายแสนบาท), ใช้การทำเครื่องหมายสะท้อนแสงแปะที่งาช้างของรถโฟล์คลิฟท์ ไม่ให้เสียบที่พาเลทสินค้าลึกหรือตื้นเกินไป (ลดอุบัติเหตุ), ติดสติกเกอร์ที่พื้น เพื่อให้กองสินค้าอยู่ในจุดที่เหมาะสมและมั่นคง (บริหารพื้นที่คลังสินค้า), แปะ Flow Chart รูปสัญญลักษณ์สีสัน พร้อมภาษาต่างชาติ/ไทย ที่จุดปฏิบัติงาน เพื่อให้พนักงานใหม่เห็นได้อย่างชัดเจน (ลดปัญหาการสื่อสารกับพนักงานใหม่ที่เป็นชาวต่างชาติ)ผู้ร่วมเรียนรู้พบว่าการพูดคุยสื่อสารกันมากขึ้น ยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง มีเป้าหมายเดียวกันในการทำกิจกรรมกลุ่ม สามารถนำไปปรับใช้กับการทำงานจริงที่ออฟฟิศได้ (ผู้บริหารชอบหลักการนี้มาก..สร้างการทำงานเป็นทีมเวิร์ค)ส่วนเนื้อหาที่ได้แชร์กับคลาส เป็นเรื่อง- การบริหารจัดการเชิงรุก Proactive Management- กรอบความคิดแบบเติบโต Growth Mindset- ทักษะการคิด : Analytical Thinking, Logical Thinking, Creative Thinking, Critical Thinking, etc- ทักษะหัวหน้างาน : การมอบหมายงาน, การติดตามงานที่สถานะของงาน, การบริหารจัดการงานกับเวลาที่มีอยู่, การแก้ปัญหาและตัดสินใจ, การประชุม, การนำเสนองาน เป็นต้น- การบริหารทีมงานให้ปฏิบัติงานบรรลุผลการปฏิบัติงาน : Teaching, Training, Consulting และ Coachingผู้ร่วมเรียนรู้บอกว่าเรียนกับอาจารย์เครียด แต่ยอม (แรกๆ รู้สึกอึดอัด..ผู้เรียนแอบบอก) และได้อะไรกลับไปหลายอย่างขอขอบคุณผู้ร่วมเรียนรู้ทุกท่าน และท่านผู้บริหารชาวต่างประเทศหัวใจไทย (ท่านยืนยันหลายครั้งว่ารักพนักงานของท่านทุกคน) ที่อยู่ร่วมเรียนรู้ตลอดทั้งคลาสครับ

  1 มี.ค. 2566    118

Effective Work and Good Result with PDCA

PDCA เป็นแนวคิดในการทำงานเพื่อพัฒนาและปรับปรุงคุณภพการผลิต ที่ถูกคิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคปี 1950 แต่ในปัจจุบันการทำงานแบบมี PDCA ได้กลายเป็นพื้นฐานในการทำงานในทุกรูปแบบ ตั้งแต่การผลิต การขายและการตลาด การพัฒนาบุคลากร ไปจนถึงการวางแผนการดำเนินงานของบริษัท โดย PDCA ได้รับการพัฒนาให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นเป็น DST (Draw See Think) PDCA และเมื่อร่วมกับการวางแผนแบบ SMART และการควบคุมแผนงานบริหารนโยบายอย่างเบ็ดเสร็จ (Hoshin Kanri) ด้วยกระดาษขนาด A3 ทำให้การบริหารเป้าหมายดูชัดเจนมากขึ้น การให้ความรู้พร้อมกับ Workshop ทำให้ไม่น่าเบื่อและผู้เข้าอบรมมีความสนุกสนานไปกับการอบรมจนดูเหมือนเวลาจะเดินเร็วไปสักหน่อยด้วยซ้ำ

  23 ก.พ. 2566    112

หัวหน้างานยุคใหม่ เก่งจัดการงานและพัฒนาทีม

วันนี้เดินทางมาร่วมพัฒนากลุ่มหัวหน้างานแถวบางแสนในหัวข้อหัวหน้างานยุคใหม่ เก่งจัดการงานและพัฒนาทีม บทบาทสำคัญของหัวหน้านอกจากจะบริหารจัดการงานให้สำเร็จตามเป้าหมายแล้วต้องพัฒนาทีมงานให้มีความสามารถมากขึ้น รวมถึงเติบโตขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวขององค์กรในอนาคตด้วยเช่นกันทักษะต่างที่ควรได้รับการพัฒนาได้แก่- การเป็นผู้นำสร้างความสัมพันธ์รอบทิศทาง- การตั้งเป้าหมายและการวางแผนงาน- การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์- การมอบหมายงาน ติดตามงาน และป้อนกลับเชิงบวก- การสอนงาน- การแก้ปัญหาและตัดสินใจพัฒนาทักษะเหล่านี้บนกรอบความคิดแบบเติบโต (Growth Mindset) กับบทบาทที่ได้รับ เอาชนะหลุมพราง ข้อจำกัดต่างๆได้ครับ

  20 ก.พ. 2566    110

ติดต่อขอคำปรึกษา ออกแบบโปรแกรม การฝึกอบรม

ทีมงานจะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง ( จันทร์-ศุกร์ 08.30 - 17.30)